นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร บริษัท ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารในเวียดนาม เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอาหารและเครื่องดื่มในเวียดนามเติบโตสูงเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 20% ต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันตลาดมีมูลค่าสูงถึง 1.73 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจัยหนุนมาจากการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ที่เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 6-7% ประกอบกับเวียดนามมีจำนวนประชากรถึง 95 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี มากถึง 60% ซึ่งมีอัตราการบริโภคอาหารต่อวันค่อนข้างสูง

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเนื้อไก่สด 32% ไส้กรอก 25% หลังจากในปี 2561 นี้บริษัทได้ปรับภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้มีความทันสมัย และในปี 2562 มีแผนที่จะเน้นการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานในตลาดเวียดนามมากขึ้น ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ติ่มซำ ซูชิ ไข่แปรรูปพร้อมรับประทาน และอาหารพร้อมรับประทาน (เรดดี้มีล) ประมาณ 50 รายการ คาดว่าจะวางตลาดประมาณเดือนมีนาคม 2562

“จำนวนสินค้าที่เพิ่มขึ้น บริษัทจึงต้องหาช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติม เนื่องจากห้างค้าปลีกในเวียดนามยังมีค่อนข้างน้อย โดยมีแผนเจาะเข้าร้านโชห่วยมากขึ้น ซึ่งในเวียดนามมีกว่า 2 แสนร้าน บริษัทจึงมีแผนพัฒนาสินค้าในกลุ่มไฟติ้งแบรนด์ หรือแบรนด์รอง เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม แต่แบรนด์หลักก็ยังเป็น CP”นายสุพัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ยังเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมที่เข้ากับกระแสความนิยม หรือเทรนด์ในตลาด ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า กลยุทธ์การสร้างตลาด เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของของผู้บริโภคชาวเวียดนามยุคใหม่ โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอาหารแปรรูปในปี 2562 เป็น 40%

นายสุพัฒน์กล่าวว่า ส่วนธุรกิจร้านอาหารซุ้มห้าดาว หรือ C.P. Five Star ที่ได้เปิดดำเนินการในเวียดนามมากว่า 7 ปีแล้วนั้น ปัจจุบันมี 650 สาขา มีแผนจะขยายเป็น 800 สาขา ในปี 2562 ขณะที่ซีพี เฟรชมาร์ท ปัจจุบันมี 8 สาขา ในปี 2562 จะขยายอีกประมาณ 10 สาขา ซึ่งบริษัทจะเปิดเองก่อน เพื่อเป็นโมเดล ก่อนที่ขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5-8 แสนบาทต่อสาขา