5 มิ.ย. 2568 นสพ.The Guardian ของอังกฤษ เสนอรายงานพิเศษ In Thailand, where mysticism thrives, AI fortune telling finds fertile ground ระบุว่า ที่ประเทศไทย คนหนุ่ม – สาวรุ่นใหม่เริ่มหันมาสนใจใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เจ้าดังอย่าง ChatGPT ในฐานะ “โหร” หรือหมอดูประจำตัวกันมากขึ้น ขณะที่ในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ผู้คนที่นั่นต่างแบ่งปันคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการอัปโหลดภาพฝ่ามือเพื่อทำนายดวง และแผนภูมิการเกิด ซึ่งแสดงตำแหน่งของดาวเคราะห์ในเวลาที่พวกเขาเกิด
ตัวอย่างของ Whan หญิงวัย 28 ปี ที่กล่าวว่า หากตนต้องการดูดวงกับโหรที่เป็นมนุษย์ จะต้องจองคิวล่วงหน้าหลายเดือน และเสียค่าบริการ 13.55 ปอนด์ (599 บาท) สำหรับการดูดวง 1 ชั่วโมง กระทั่งได้เห็นผู้คนพูดกันถึงความแม่นยำของ ChatGPT จึงลองถามกับ AI นี้ดูบ้าง โดยเริ่มจากการใส่วัน เวลาและสถานที่เกิด ตามด้วยอัปโหลดรูปหน้าของตนเพื่ออ่านค่าดวง และขอให้ ChatGPT วิเคราะห์ความเข้ากันได้ของตนกับแฟนหนุ่ม ซึ่งโหรปัญญาประดิษฐ์ให้คำทำนายว่า ครึ่งหนึ่งของทั้งคู่มีแนวโน้มที่จะงอน ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งมักจะคิดวิเคราะห์มากเกินไป พร้อมทั้งแนะนำว่าทั้งคู่ควรพยายามเปิดใจกันให้มากขึ้น
สื่อเมืองผู้ดีบรรยายว่า ในสังคมไทย แม้จะได้ชื่อว่าเป็น “เมืองพุทธ” ตามศาสนาที่คนส่วนใหญ่นับถือ แต่โหรหรือหมอดูนั้นมีความสำคัญกับผู้คนมายาวนานหลายศตวรรษ โดยวัฒนธรรมถูกหล่อหลอมด้วยโหราศาสตร์และการทำนายดวงรูปแบบอื่นๆ คนทุกชนชั้นล้วนพึ่งพาการทำนายโชคชะตา ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักธุรกิจที่ต้องตัดสินใจลงทุน นึกศึกษาที่กังวลผลสอบหรือความรัก เป็นต้น ซึ่งการประมาณขนาดของตลาดสินค้าและบริการทางจิตวิญญาณนั้นแตกต่างกันไป อาทิ ใน ปี 2567 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) ระบุว่า ตลาดนี้มีมูลค่าระหว่าง 304 - 456 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 10,000 – 15,000 ล้านบาท)
ในเดือน ม.ค. 2568 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เผยแพร่ผลการศึกษาที่พบว่า คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าทางออนไลน์มากที่สุดจากทุกช่วงวัย และจากบริการทางจิตวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้นผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล แอปพลิเคชั่นดูดวงจึงดึงดูดความสนใจจากคนทุกวัยมากที่สุด ดังตัวอย่างของ Jirapat Wangcharoen ชายวัย 27 ปี ผู้ผลิตเนื้อหาที่เน้นเรื่องโหราศาสตร์และจิตวิญญาณ ซึ่งในบัญชี TikTok ที่ชื่อว่า Nesh the Wizard เขาได้แบ่งปันคำแนะนำในการใช้ ChatGPT โดยมีวิดีโอหนึ่งรายการเมื่อเดือน ต.ค. 2567 ที่มีผู้กดถูกใจหลายหมื่นคน
Jirapat เล่าว่า สมัยเรียน ป.โท อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ตนทำวิจัยเรื่องการใช้ AI เป็นเครื่องมือนำทางส่วนตัว แล้วพบว่า ผู้คนต้องการคลายความวิตกกังวลโดยเร็วที่สุด หากมีคำถามในตอนกลางคืน เวลาตีหนึ่ง พวกเขาไม่ต้องการจะพูดถึงเรื่องนั้นอีกต่อไป... โดยจะไปที่ ChatGPT หรือ TikTok live เพื่อถามคำถาม และคนหนุ่ม – สาวจะคุยกับหุ่นยนต์ได้ง่ายกว่าคุยกับมนุษย์
Ruchi Agarwal ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายถึงความอยากรู้เกี่ยวกับจุดสูงสุดในอนาคตในช่วงเวลาที่ไม่มั่นคง ว่า หากมองดูแนวโน้มในอดีต เมื่อใดก็ตามที่มีวิกฤติเศรษฐกิจหรือการเมือง ผู้คนก็มักจะมองหาร่างทรงหรือหมอดูอยู่เสมอ เพียงเพื่อเยียวยาจิตใจ หรือเพื่อหาทางแก้ไขความไม่แน่นอนที่พวกเขาเผชิญอยู่ เช่นเดียวกับคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่ต้องเผชิญความไม่มั่นคงทางการเมืองและโรคระบาด พวกเขาจมอยู่กับสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น และยึดติดกับสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น
เช่นเดียวกับ Master Par หญิงผู้ประกอบอาชีพโหร ซึ่งถูกเรียกว่า “อาจารย์ (Ajarn)” ในย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ พื้นที่ซึ่งมีชื่อเสียงด้านศาลเจ้าพระพิฆเนศและหมอดู ที่กล่าวว่า คนรุ่นใหม่กำลังค้นหาความหมายในชีวิต สิ่งนี้จึงเป็นวิธีสร้างความเข้มแข็งทางอารมณ์ในโลกที่ไม่แน่นอน เพราะคนรุ่นใหม่มีความรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมอะไรได้
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า บางคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการให้เครื่องมือ AI ที่มีข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รูปถ่ายหรือรายละเอียดการเกิด และมีความเห็นแตกต่างกันว่า ChatGPT หรือเครื่องมือ AI อื่นๆ จะมีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้ที่สนใจด้านโหราศาสตร์ในระยะยาวหรือไม่ รวมถึง Master Par ที่แม้จะเชื่อว่า ChatGPT อาจมีความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกับหลักโหราศาสตร์ได้ แต่ก็สงสัยถึงประโยชน์ของมันด้วย
Master Par อธิบายมุมมองของตนในเรื่องหมอดู AI ว่า การจะให้คำแนะนำที่ถูกต้องได้นั้น ผู้แนะนำต้องมีประสบการณ์ตรง และมีความรู้สึกตามสัญชาตญาณของมนุษย์ โดยเปรียบเทียบบทบาทของโหรกับนักบำบัด ซึ่งเป็นบุคคลที่ผู้คนสามารถปรึกษาได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำซ้ำได้ด้วยคอมพิวเตอร์ และหุ่นยนต์ไม่สามารถสัมผัสความรู้สึกของมนุษย์ได้
รายงานข่าวทิ้งท้ายด้วยการกลับไปที่หญิงสาวอย่าง Whan ที่กล่าวไว้อย่างน่าคิดว่า การปรึกษากับทั้งมนุษย์และ ChatGPT นั้นมีข้อดีหลายประการ ในกรณีที่ปรึกษามนุษย์ คุณสามารถมองเห็นใบหน้าและปฏิกิริยาของพวกเขาได้ ขณะที่การคุยกับ AI คุณสามารถใช้มันได้ทันที และคุณสามารถถามพวกเขาต่อไปได้
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี