นายนที สิทธิประศาสน์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เปิดเผยว่า หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เรียบร้อยแล้ว ทางกลุ่มผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชีวมวล สอท. มีแผนจะเข้าพบ รมว.พลังงานคนใหม่ เพื่อชี้แจงให้รับทราบถึงสถานการณ์พลังงาน และปัญหาของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชีวมวล หลังจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี 2561-2580 (PDP 2018) มีความชัดเจนว่า การรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ในส่วนของเชื้อเพลิงชีวมวล ในปลายแผนปี 2580 จะอยู่ที่ 4,700 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายราว 2,000 เมกะวัตต์ และจะทยอยหมดอายุลงเหลือประมาณ 1,200 เมกะวัตต์ ในปี 2580 ดังนั้น จะมีปริมาณรับซื้อเพิ่มอยู่ที่ราว 3,500 เมกะวัตต์ ในปี 2580
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 ปีนี้ รัฐยังไม่เปิดรับซื้อไฟฟ้าชีวมวลโครงการใหม่ๆ เพียงระบุว่าในแผน PDP 2018 ที่จะกำหนดส่งเสริมโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐฯ 120 เมกะวัตต์ และชีวมวล 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งก็เป็นการกำหนดรับซื้อเฉพาะบางพื้นที่และมีปริมาณไม่มากนัก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชีวมวล แม้จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายหยุดรับซื้อไฟฟ้าใน 3 ปีนี้ แต่มองว่าประเทศจะเสียเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น จากการซื้อขายวัตถุดิบการเกษตร
ป้อนโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้เงินลงทุนราว 50-60 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ได้ในอนาคต
นายนทีกล่าวว่า การส่งเสริมโรงไฟฟ้าชีวมวลให้เป็นไปตามแผน PDP ฉบับใหม่ และดูแลผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชีวมวลในช่วงที่รัฐหยุดรับซื้อไฟฟ้า มองว่า ภาครัฐควรเปิดให้บุคคลที่ 3 เข้ามาใช้โครงสร้างพื้นฐานซื้อขายไฟฟ้า (Third Party Access : TPA) หรือเปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า เพื่อปลดล็อกให้เกิดการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานเอกชนกับเอกชน (Private PPA) ได้ ซึ่งจะทำให้เอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อซื้อขายกันเองได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้รัฐเปิดโครงการรับซื้อไฟฟ้า ขณะเดียวกันผู้ซื้อกับผู้ขายยังสามารถตกลงกันได้ในราคาที่พอใจกันทั้ง 2 ฝ่าย และไม่ทำให้การลงทุนผลิตไฟฟ้าหยุดชะงักลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี