ภาคเศรษฐกิจขานรับ
ครม.ชุดใหม่
เชื่อมั่นขับเคลื่อนไปได้
ชี้ต้องมีเอกภาพ-โปร่งใส
แนะเร่งใช้งบกระตุ้นศก.
ประธานสอท.เชื่อมั่นครม.ชุดใหม่ จะขับเคลื่อนประเทศไปได้ แม้มีหลายพรรคแต่ต้องมีเอกภาพไปทิศทางเดียวกันและต้องมีความโปร่งใส จี้เร่งผลักดันราคาสินค้าเกษตรเพิ่มรายได้ ฝากดูแลค่าเงินบาท ส่วนแบงก์ แนะเร่งเบิกจ่ายงบ หวังกระตุ้นการลงทุนฟื้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ขณะที่หุ้นไทยปรับขึ้นขานรับครม.ใหม่
เมื่อวันที่ 11กรกฎาคม นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)ให้ความเห็นถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.)ชุดใหม่ว่า ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีทุกคน เป็นผู้ที่มีความสามารถ ด้านเศรษฐกิจทุกคนก็มีประสบการณ์ เชื่อว่าจะขับเคลื่อนได้ แต่การขับเคลื่อนต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากหลายพรรคการเมือง และต้องมีความโปร่งใส
“หากเป็นไปได้อยากให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วม 2 รูปแบบคือเรื่องการจัดทำ Ease of Doing Businessในช่วง 2-3 เดือนครั้ง โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานและผู้บริหารแต่ละกระทรวงเศรษฐกิจเข้ามาหารือ เพื่อแก้ไขเรื่องเร่งด่วนและการประชุมร่วมภาครัฐเอกชนหรือ กรอ.โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานปีละ 2 ครั้ง”นายสุพันธ์ กล่าว
และว่านอกจากนี้ควรผลักดันราคาสินค้าเกษตร เพื่อเกษตรกรจะได้มีรายได้ที่ดีขึ้น ส่วนค่าเงินบาท ควรจะมีเสถียรภาพมากขึ้นและอาจจะต้องปรับลดดอกเบี้ยลง เพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่าต่อไปและทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสเติบโตขึ้น
ส่วนในด้านกำลังซื้อในประเทศ ระยะสั้น รัฐบาลจำเป็นต้องใช้งบประมาณกระตุ้น ซึ่งการกระตุ้นผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังเหมาะสมสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ แต่เฉพาะระยะสั้นเท่านั้น ในระยะยาว ต้องพิจารณาแนวทางการเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น การค้าดีขึ้น ทิศทางเศรษฐกิจไทยนับจากนี้ไปถึงอย่างไรก็เติบโตไม่เท่ากับปีที่ผ่านมา
ส่วนเศรษฐกิจ ในช่วงครึ่งหลังปี 2562 รัฐบาลจะต้องใช้เงินและพลังในการขับเคลื่อนมาก เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนปัจจัยที่ต้องระมัดระวัง ปัจจัยภายนอก ยังคงเป็นสงครามการค้า ส่วนภายในระวังเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ การคอร์รัปชัน เพราะขณะนี้ประเทศต้องการใช้เงินในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาก
ส่วนจะมีข้อกังวล หรือไม่ที่รัฐบาลใหม่ เป็นรัฐบาลผสมจากหลายพรรคการเมือง นายสุพันธุ์ กล่าวว่าไม่กังวล เพราะยังไม่เห็นปัญหาเท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่าทุกคนอยากขับเคลื่อนในสิ่งที่ทำได้ดีอยู่แล้ว และต้องแข่งกับเวลา เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่า ด้านการเมืองต้องสร้างความเข้มแข็งผ่านการผลักดันผลงานตัวเองออกมาให้ดีที่สุด
ขณะที่ นางสาวนลิน ฉัตรโชติธรรม นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทยกล่าวว่า คาดหวังรัฐบาลใหม่ มีมาตรการเร่งรัดเบิกจ่าย หรือ มีมาตรการที่ช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายภาคเอกชนเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมถึง การผลักดันนโยบายต่างๆที่เป็นผลบวกกับเศรษฐกิจและการลงทุน พร้อมทั้งย้ำขอให้มีมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพราะปีนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
ธนาคารได้ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2562 มาอยู่ที่ 3.3 % จากการชะลอตัวลงของการลงทุนภาครัฐครึ่งปีแรก และปีหน้าคาดจะขยายตัว 3.7% ขณะที่การส่งออกปีนี้ คาดโตต่ำกว่า 3% และการท่องเที่ยวโต ต่ำกว่า 5% ซึ่งยังมีมุมมอง เป็นบวกว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะกลับมาขยายตัวดีขึ้นโดยนักท่องเที่ยวจีน ไม่ได้ท่องเที่ยวน้อยลง แต่มีเทรนด์ชื่นชอบท่องเที่ยวสถานที่หรือกิจกรรมใหม่ๆซึ่งเป็นโจทย์สำคัญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำการบ้านว่าจะทำอย่างไรในการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กลับมาบ้านเราอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหุ้นไทย ในภาคเช้าปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง จากวานนี้ ขานรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ใหม่ และเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนดัชนี ช่วงเที่ยงนี้เป็นนิวไฮของปีที่ 1,746.22 จุด เพิ่มขึ้น 6.79 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 34,204.45 ล้านบาท ส่วนเงินบาท เปิดตลาดที่ 30.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากวานนี้ หลังมีแรงขายดอลลาร์สหรัฐ จากเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ขณะที่ราคาทองคำเช้านี้พุ่งแรงตามตลาดโลก เปิดตลาดปรับขึ้นบาทละ 250 บาท ราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่บาทละ 20,600 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี