นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ได้รับมอบหมายให้เป็นแกนกลางของไทย ในการปฏิบัติตามพันธกรณีความตกลงว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Agreement on Technical Barriers to Trade : TBT) ของ องค์การการค้าโลก (WTO) โดยปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการแจ้งกฎระเบียบ (Notification Authority) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรวมถึงมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องมาตรฐานและการตรวจสอบ รับรอง ในการประชุมของ WTO

โดยในการประชุม คณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Committee on Technical Barrier to Trade) ขององค์การการค้าโลก (WTO) ได้มีการจัดประชุมสมัยสามัญ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อวันที่ 20-21 มิถุนายน 2562 โดยในการประชุมครั้งนี้ สมอ. ได้หยิบยกมาตรการของประเทศสมาชิก ที่มีผลกระทบต่อการค้าของไทยเสนอต่อที่ประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกรถยนต์ของไทยไปเวียดนาม ซึ่งมีผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ของไทยอย่างรุนแรง จึงขอเสนอให้ เวียดนามผ่อนผันการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวออกไปก่อน

ทั้งนี้ ขอให้พิจารณานำปัญหาและอุปสรรคของประเทศไทยและประเทศสมาชิก WTO อื่น ไปปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการรถยนต์นำเข้า เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีความตกลงว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ในการนี้เวียดนามชี้แจงต่อที่ประชุมว่าจะนำข้อกังวลของประเทศสมาชิกไปพิจารณาเพื่อช่วยขจัดปัญหาและความยุ่งยากที่เกิดขึ้น ให้มีความสมดุลกับมาตรการด้านความปลอดภัยและคุณภาพต่อไป

นอกจากนี้ สมอ. ยังเรียกร้องให้สหภาพยุโรป(อียู)ดำเนินการแก้ไขและตรวจสอบกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน ได้แก่ การกำหนดเกณฑ์การประเมินผลกระทบของพืชน้ำมันที่ใช้เป็นพลังงานทดแทน ในส่วนที่กล่าวอ้างว่าการเพาะปลูกน้ำมันปาล์มมีผลต่อการทำลายป่า และประเด็นการติดฉลากปลอดน้ำมันปาล์ม (Palm Oil Free Label) ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เนื่องจากอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดต่อการบริโภคน้ำมันปาล์มได้

รวมทั้งยังเรียกร้องให้สหภาพยุโรปพิจารณาปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การจำแนกสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของต่อมไร้ท่อ (Endocrine Disruptors) ให้อยู่บนพื้นฐานของการประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) เพื่อลดผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปตลาดสหภาพยุโรปอีกด้วย

“นอกจากการควบคุมสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานแล้ว สมอ. ยังมีภารกิจหลักในการดำเนินการด้านการมาตรฐานระหว่างประเทศ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่มาตรการทางด้านภาษีด้วย” นายวันชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อต้นปี 2561 รัฐบาลเวียดนามได้ออกระเบียบ Decree 116 ให้ผู้นำเข้ารถยนต์ต้องได้รับการรับรองประเภทยานพาหนะ (VTA) จากหน่วยงานภายในประเทศผู้ส่งออกเพื่อทราบแหล่งกำเนิดของยานพาหนะ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไปยังประเทศเวียดนาม

ก่อนหน้านี้ กลุ่มสหภาพยุโรปได้เตรียมยกเลิกการใช้น้ำมันปาล์มในการผลิตเชื้อเพลิงไบโอดีเซลภายในปี 2564 ซึ่งปัจจัยดังกล่าว ส่งผลกดดันต่อผู้ผลิตหลัก 3 รายใหญ่ของโลกอัน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย