นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวระหว่างการประชุมนักวิเคราะห์ (Anylyst Meeting) ครั้งที่ 3/2562 เพื่อสรุปแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินรายไตรมาสว่า ธปท.ได้ปรับปรุงมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาทและเพิ่มความเข้มงวดในการรายงานข้อมูลการลงทุนในตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณที่แรง เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศระมัดระวังมากขึ้นในการนำเงินเข้ามาพักในประเทศไทย โดยค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าทันทีในวันแรกที่ออกมาตรการดังกล่าว และหวังว่าจะเกิดผลต่อเนื่องในระยะยาว
“ยอมรับว่าปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงกดดันต่อค่าเงินบาทมาจากปัจจัยพื้นฐานในประเทศที่ยังมีความแข็งแกร่งทั้งจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูง และปัจจัยต่างประเทศจากการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคากลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีแนวโน้มจะลดอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้เงินบาทแข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค”
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) กล่าวว่ามาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธปท.เป็นเพียงการแก้ปัญหาในระยะสั้น แต่ภาคเอกชนอยากให้ธปท.มีมาตรการดูแลค่าเงินบาทในระยะยาวมากขึ้น เพื่อรองรับความผันผวนของค่าเงินบาทในระยะข้างหน้า เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากปัจจุบัน 1.75% เพื่อชะลอการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติที่เข้ามาเก็งกำไรจากค่าเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี