นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน Thailand Industry Expo 2019 ว่าขณะนี้เศรษฐกิจโลกกำลังซบเซา เห็นได้จากเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ชะลอตัวเช่นเศรษฐกิจจีนที่ตกต่ำสุดในรอบ 28 ปี สิงคโปร์ตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี เป็นปัญหาที่ไทยกำลังเผชิญ ดังนั้นภาคอุตสาหกรรมไทยจึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ทั้งนี้หลังจากเข้ารับตำแหน่งภารกิจเร่งด่วน คือ การส่งเสริม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่แห่งอนาคตตามนโยบายของรัฐบาล เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ การแพทย์ครบวงจร เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัล การแปรรูปอาหาร ยานยนต์แห่งอนาคต อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ ท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
รวมทั้งจะเร่งหาแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เบื้องต้นจะหารือกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหาแหล่งเงินทุนและมาตรการด้านการเงินมาช่วยปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ เช่น เรื่องเครดิตบูโร การลดอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งการกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมให้มีธรรมาภิบาลในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
ส่วนการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำนั้นนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการไตรภาคีต้องไปหารือกันให้ได้ข้อสรุปก่อน หากปรับค่าแรงขึ้นจะเป็นต้นทุนในกระบวนการผลิตสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำ และปลายน้ำจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคปลายทาง
นายสุริยะ กล่าวว่า โครงการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ถือเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจซึ่งขณะนี้มีแนวนโยบายที่จะกระจายโครงการลงทุนต่างๆ ไปยังพื้นที่อื่นในแต่ละภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศ
ส่วนความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยสั่งปิดเหมืองทองอัคราของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ดลิมิเต็ด จำกัด บริษัทแม่ของบริษัท อัครารีซอร์สเซส นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนของอนุญาโตตุลาการ
นายสุริยะกล่าวว่า การบริหารจัดการเรื่องอ้อยและน้ำตาลนั้น ต้องดูแลให้เหมาะสม ดังนั้นการจะดูแลให้ราคาอ้อยขั้นต้นปรับขึ้นไปอยู่ที่ 1,000 บาทต่อตันขอศึกษารายละเอียดก่อน ที่สำคัญต้องไม่ให้ขัดกับข้อตกลงขององค์การการค้าโลก(WTO) ด้วย
อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ จะเดินสายพบภาคเอกชนที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เพื่อรับฟังความคิดเห็น รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งร่วมกันผลักดันส่งเสริมและขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสอท.กล่าวว่า ภาคเอกชนเตรียมเสนอแนวทางให้กระทรวงอุตสาหกรรมสนับสนุนการใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ โดยอาจกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐว่าต้องมีสัดส่วนการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศอย่างน้อย 50-60%เพราะปัจจุบันมีเพียงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นในประเทศสูงถึง 60-70%รวมถึงจะเสนอให้มีการสนับสนุนจัดตั้งกองทุนนวัตกรรม เพื่อต่อยอดและช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี