เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้มีการนำเสนอแผนลดค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. ให้ กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วในเบื้องต้นได้มีแนวทางในการจัดทำตั๋วรายวัน โดยบัตรที่จะมีวงเงินและตัดตามค่าใช้จ่ายจริงที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทางทุกวัน จึงได้มีการให้กรอบเวลา 1 เดือนในการให้ ขสมก.ไปจัดทำข้อมูลและนำกลับมาเสนออีกครั้งก่อนพิจารณาสรุปต่อไป

ขณะที่ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ว่าที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ในการหาแนวทางการลดค่าโดยสารรถเมล์นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปมาตรการดำเนินการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ตามนโยบายรมว.คมนาคม ในเบื้องต้นได้มีแนวทางในการคิดค่าโดยสารรถเมล์ปรับอากาศตลอดสาย เช่น ค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสาย หรือ ค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย รวมถึงการลดราคาตั๋ววันของรถเมล์แบบจ่ายครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม แนวทางลดค่ารถเมล์จะต้องไม่กระทบกับรายได้ ขสมก.และภาษีประชาชน จึงอาจใช้แนวทางการเจรจากับกทม.ในการนำภาษีป้ายวงกลมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

ในวันเดียวกัน รมว.คมนาคม ได้เป็นประธานการประชุมแผนฟื้นฟูกิจการขสมก.โดยรมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ทาง ขสมก. กลับไปพิจารณารายละเอียดตามข้อสังเกตของ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในส่วนของการบริหารหนี้สาธารณะและการจัดหารถโดยสารให้ข้อมูลตัวเลขต่างๆมีความชัดเจน และสามารถอธิบายต่อสาธารณะได้โดยได้มีการให้กรอบระยะเวลา 1 เดือน ดำเนินการก่อนส่งกลับมาให้กระทรวงคมนาคมอีกครั้งเพื่อส่งเรื่องต่อไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป จึงคาดว่า ขสมก.จะสามารถเริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟูได้ในช่วงมีนาคม 2563

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ขสมก.จะต้องไปพิจารณาการบริหารจัดการเส้นทางการเดินรถระหว่างรถเมล์ ขสมก. และรถร่วมบริการ ขสมก. ไม่ให้มีการทับซ้อนกันเพื่อเป็นการใช้รถที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในอนาคต ขสมก. จะต้องปรับมีการบทบาทการเดินรถไปสู่การเป็นรถขนส่งสาธารณะเสริมเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะอื่นๆ เช่น รถไฟฟ้า เรือด่วนเจ้าพระยา เป็นต้น และสำหรับการจัดหารถโดยสารใหม่นั้นจะต้องพิจารณาต้นทุนอย่างชัดเจน มีราคาอ้างอิงและอธิบายได้ รวมถึงต้องมีความคุ้มค่าของรูปแบบรถว่าควรเป็นประเภทใด อย่างไรก็ตาม จากการพิจารณาแผนฟื้นฟูดังกล่าวนั้นก็เชื่อว่าหาก ขสมก. สามารถดำเนินการได้ตามแผนฯจะส่งผลทำให้มีผลประกอบการเป็นบวกและสามารถดูแลตัวเองได้