“กรมการขนส่งทางบก”ผนึกกำลัง “การกีฬาแห่งประเทศไทย” ลงนามความร่วมมือผลักดัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 เป็นวาระสำคัญของประเทศไทย พร้อมเดินหน้าอำนวยความสะดวกแฟนความเร็วหลายแสนคนจากทั่วโลก
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่มีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐด้วยกัน เพราะการจัดโมโตจีพีนั้น ไม่ใช่ทางด้านกีฬาที่ได้รับผลประโยชน์อย่างเดียว แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นผลดีแก่ประเทศไทยในด้านต่างๆ ด้วย ทั้งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตรงตามยุทธศาสตร์ “สปอร์ตทัวริซึ่ม” ของรัฐบาล เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่องค์กรภาครัฐทุกภาคส่วน ให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพีของประเทศไทย เพราะผลประโยชน์ที่กลับมาสู่ประเทศไทยนั้นมากมายจริงๆ
“การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกในประเทศไทย ส่งผลให้มีผู้ชมเดินทางมาจากทั้งในและต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เดินทางโดยโครงข่ายทางบก ฉะนั้นกรมการขนส่งทางบก จึงเป็นหน่วยงานสำคัญมาก ที่ให้การสนับสนุนทั้งในเรื่องการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยของเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีโครงการความร่วมมือระหว่างกันในการรณรงค์การขับขี่ปลอดภัย ซึ่งทาง กกท. ต้องขอขอบคุณอีกครั้งที่ทางขนส่งทางบก เห็นความสำคัญ และให้ความร่วมมือในการจัดงานครั้งนี้”
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า “เราได้บูรณาการเส้นทางการเดินทางทางบกให้มีความพร้อมมากที่สุด ทั้งเส้นทางหลักของกรมทางหลวง ที่จะขยายเส้นทาง เช่น สายบุรีรัมย์-นางรอง บูรณะผิวทางเดิม ซึ่งเดิมทีเป็นเส้นทางรองให้พร้อมรองรับการเดินทางของแฟนมอเตอร์สปอร์ตจำนวนมาก ปรับปรุงบริเวณคอขวดไหล่ทาง มีการติดตั้งป้ายบอกทางเพิ่มเติม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรติดขัด ภายในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ เป็นต้น”
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมแผนการรองรับการแข่งขัน สำหรับแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต ที่เดินทางระหว่างจังหวัด ด้วยการเพิ่มเที่ยวรถในช่วงการจัดงาน ในส่วนของ บขส. เส้นทาง กทม. สู่บุรีรัมย์ วันละไม่ต่ำกว่า 60 เที่ยวต่อวัน เส้นทางนครราชสีมา-บุรีรัมย์ ไม่ต่ำกว่า 120 เที่ยวต่อวันรถโดยสารประจำทางไม่ต่ำกว่า 10 เส้นทาง
อธิบดีกรมขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปีที่ผ่านมามีผู้ชมจากทั่วโลก เดินทางมาชมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะบิ๊กไบค์ เรานำกระแสดังกล่าวมารณรงค์เพื่อให้เยาวชน เเละคนไทยทุกคน เล็งเห็นความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนักแข่งระดับโลกเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งทุกคนจะต้องสวมหมวกกันน็อก และมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายของตัวเองทุกครั้ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะไม่เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมปลูกฝังให้คนไทยทุกคนให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน”
ทางด้าน นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า “คาดว่าปีนี้จะมีผู้ชมเพิ่มมากกว่าเดิมมาก เนื่องจากปีที่แล้ว เราได้รางวัล Best Grand Prix of the year ส่วนในปีนี้ทางสนามยังคงมีแผนในการทำรถรับ-ส่ง เส้นทาง ภายในสนาม 3 สายโดยชัตเติ้ลแต๋น ซึ่งปีนี้ จะเพิ่มรถบรรทุก 6 ล้อไปด้วยรวมเป็นหลายร้อยคัน เพื่อให้จำนวนเพียงพอกับความต้องการ มีจุดขึ้น-ลงรถให้บริการทั้ง 2 ประตูทางเข้าหลักสู่ลานกิจกรรม และสแตนด์จุดต่างๆอย่างทั่วถึง”
ทั้งนี้ โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ต ห้ามพลาด!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี