นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 91 และคาดการณ์ไตรมาส 4/2562ที่ระดับ 95 สะท้อนความกังวลของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ชะลอตัว ทำให้มีสัดส่วนของผู้ประกอบการที่พิจารณาปรับลดแผนการลงทุนเพิ่มขึ้นและพิจารณาปรับลดการจ้างงานและลดค่าจ้างมากขึ้นแต่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวผู้ประกอบการบางส่วนมีแผนจะเพิ่มราคาสินค้าและบริการ
ธุรกิจส่วนใหญ่ระบุว่าได้รับผลดีจากมาตรการขยายระยะเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่าไปจนถึงเดือนเมษายน 2563 นักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและไทยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการส่งเสริม Platform การเรียกรถโดยสารสาธารณะให้ถูกกฎหมาย (Ride-Hailing) โดยประเมินว่าจะมีส่วนช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยรวม และจะได้ประโยชน์ทั้งในเมืองหลักหรือแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในทุกกลุ่มและคาดการณ์ในไตรมาส 4/2562 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10.41 ล้านคนเพิ่มขึ้น 7.21% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 และทั้งปี 2562 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 39.73 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.06% จากปี 2561 และมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 1.95 ล้านล้านบาท
นายชัยรัตน์กล่าวว่า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะวิกฤติ จากปัจจัยลบต่างๆ ที่ทวีความรุนแรง ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ รวมถึงการเดินขบวนประท้วงในฮ่องกง ซึ่งส่งผลต่อความกังวลในเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกจากการที่ดอกเบี้ยทั่วโลกมีแนวโน้มปรับลดอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้น ประกอบกับความกังวลต่อสงครามการค้า ส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวนสูงและไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเนื่องจากเสถียรภาพต่างประเทศแข็งแกร่ง จึงทำให้อัตราเงินบาทแข็งค่าขึ้นเศรษฐกิจไทยจึงมีแนวโน้มชะลอลง จากมูลค่าส่งออกสินค้าที่หดตัวสูง
รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอลงและมีนักท่องเที่ยวจีนมาเยี่ยมเยือนไทยลดลงจากปีก่อน ขณะที่การใช้จ่ายในประเทศยังขยายตัวได้เนื่องจากยังมีมาตรการภาครัฐต่างๆ รวมถึงยอดขายรถยนต์ที่ยังขยายตัวในช่วงที่ผู้ประกอบการเร่งทำโปรโมชั่น
การจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ในโลก โดย World Economic Forum ล่าสุดในปี 2562 พบว่า ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 31 จากทั้งหมด 140 ประเทศ หรือเป็นอันดับที่ 9 ในเอเชีย และอันดับที่ 3 ในอาเซียน โดยด้านที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง ได้แก่ ทรัพยากรธรรมชาติ แรงงานและทรัพยากรบุคคล การให้ความสำคัญกับสาขาการท่องเที่ยว ความคุ้มค่าของราคา โครงสร้างพื้นฐานการเดินทางทางอากาศ และโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนด้านที่มีความสามารถในการแข่งขันต่ำ ได้แก่ ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และความสะอาด
สทท.ขอเสนอให้ภาครัฐร่วมมือกันส่งเสริมขีดความสามารถของผู้ประกอบการในการแข่งขันธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลและการตลาด เงินทุน และส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านมาตรการสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ รวมถึงส่งเสริมธุรกิจ Platform การเรียกรถโดยสารสาธารณะให้ถูกกฎหมาย ครอบคลุมในทุกพื้นที่ โดยกำกับดูแลการบริการและราคาให้มีมาตรฐาน อีกทั้งควรส่งเสริมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในประเทศในช่วงวันหยุดเทศกาลเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไทยท่องเที่ยวในประเทศ
ในส่วนของผู้ประกอบการควรติดตามสถานการณ์โลกทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม และมีการทำงานเป็นเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการในพื้นที่เดียวกัน ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียงควรพัฒนาระบบ IT และความพร้อมของบุคลากรที่จะทำหน้าที่ดูแลระบบเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารสองทาง รวมถึงส่งเสริมให้มีบริการรถขนส่งสาธารณะในพื้นที่ ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี