เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนตุลาคม 2562 พบว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 อยู่ที่70.2
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 57.9 67.0 และ 87.3 ตามลำดับ โดยปรับตัวลดลงทุกรายการ เมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนกันยายน ที่อยู่ในระดับ 59.3 68.5 และ 88.9 ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตมากนัก
นายธนวรรธน์ พลวิชัยผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การที่ดัชนีมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 มาจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังมีผลมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ปัญหาการถูกตัดสิทธิจีเอสพีปัญหาทางการเมืองของไทย ทำให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยชะลอ
ประกอบกับสถานการณ์ราคาพืชผลทางการเกษตรในประเทศยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน แม้จะมีโครงการประกันรายได้ทั้งข้าวและปาล์มน้ำมัน แต่เป็นการพยุราคาโดยรวมชั่วคราวเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจจะใช้เงิน เพราะเห็นว่าเงินนั้นหายาก จึงไม่กล้าจะใช้จ่ายในการซื้อบ้าน ซื้อรถหรือไปท่องเที่ยวมากนัก ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดลดลง
อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์ฯ ได้ประเมินผลจากเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาขณะนี้ เห็นว่ายังคงเข้าระบบไม่เต็มที่แม้ว่าจะมีเม็ดเงินจากการโอนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการชิมช้อปใช้และการประกันรายได้ที่เม็ดเงินยังไม่เข้าสู่เข้าระบบเท่าที่ควร ดังนั้น คงจะต้องติดตามในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ที่รัฐบาลจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อผ่านโครงการต่างๆ ที่จะใช้เงินมากกว่า 25,000-30,000 ล้านบาท ได้เต็มที่และเต็มวงเงินได้มากจริงก็น่าจะส่งผลให้กำลังซื้อกลับมา ดังนั้น ทางศูนย์พยากรณ์ฯ จะขอรอดูผลสำรวจดัชนีด้านต่างๆ ของเดือนพฤศจิกายนนี้ ก่อนว่าจะปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4 หากเศรษฐกิจโตร้อยละ 3.4-3.5 จะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะเติบโตได้ร้อยละ 2.8 แต่หากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ก็อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะไม่เติบโตเกินร้อยละ 3
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี