เตือน‘เลนขวาอย่าช้ากว่า90’ต้องรอบคอบ ชี้‘ชุมชนริมถนน-จุดกลับรถ’เสี่ยงอุบัติเหตุ
13 มกราคม 2563 นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) กล่าวถึงกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนอให้ถนนที่มี 4 ช่องจราจรขึ้นไป ในช่องขวาสุดห้ามขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 90 กม./ชม. และผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมายด้วย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ขับช้าก็โดน! คมนาคมไอเดียกระฉูด ชงออกกม.ห้ามขับรถเลนขวาต่ำกว่า90กม./ชม.) ว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะกับสังคมไทยที่ผู้คนใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะหลัก รวมถึงอาจมีพาหนะอื่นๆ มาวิ่งร่วม เช่น รถบรรทุก รถซาเล้ง รถที่ใช้ในทางการเกษตร ฯลฯ
ทั้งนี้ หากเทียบกับถนนมอเตอร์เวย์ที่อนุญาตให้ใช้ความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. จะพบข้อแตกต่างคือถนนมอเตอร์เวย์มีการป้องกันไม่ให้มอเตอร์ไซค์เข้ามาใช้ อีกทั้งยังมีแนวกั้นแยกกับพื้นที่อื่นๆ ภายนอกอย่างเด็ดขาด จึงไม่มีปัญหารถจากทิศทางอื่นวิ่งเข้ามาตัดกระแส นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าริมถนนจำนวนมากก็เป็นที่ตั้งของปั๊มน้ำมัน ชุมชนหรือร้านค้า แน่นอนว่าต้องมีรถจอดหรือแล่นเข้า-ออก คำถามคือหากประกาศใช้จริง จะลดความเสี่ยงอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆ ริมทางได้อย่างไร
“ถ้าจะทำก็ต้องยึดแนวทางมอเตอร์เวย์เป็นพื้นฐาน มอเตอร์เวย์อนุญาตให้ทำความเร็วที่ 120 กม./ชม.ได้ เพราะเขาออกแบบมารองรับแล้ว แต่นี่เรากำลังจะฝืน เอาถนนที่เป็นไฮเวย์มาให้ความเร็วเพิ่มขึ้นโดยที่ความปลอดภัยพื้นฐานมันยังไม่จบครบองค์ประกอบอย่างที่มอเตอร์เวย์เป็น คือบ้านเราชุมชนมันโตตามถนน เลยเข้าไปสัก 100 เมตรก็ไม่มีชุมชนแล้ว เป็นป่า แต่ทุกคนก็จะมาซื้อที่ดินทำธุรกิจอยู่ริมทางเพราะกิจกรรมทั้งหมดมันมาอยู่ริมถนน” นพ.ธนะพงศ์ กล่าว
ผู้จัดการ ศวปถ. ยังกล่าวอีกว่า หากจะทำนโยบายนี้จริงๆ อาจต้องทำแบบเดียวกับ ถ.วิภาวดีรังสิต คือแบ่งถนนออกเป็นทางหลักกับทางขนาน เพื่อกันกิจกรรมข้างทางออกไปจากช่องจราจรด้านในที่อนุญาตให้ใช้ความเร็วสูง รวมถึงไม่มีการเปิดเกาะกลางแต่สร้างเป็นสะพานเกือกม้าเพื่อเป็นจุดกลับรถแทน เพราะหากอนุญาตไปโดยที่ขาดความพร้อมในการจัดการรถที่ใช้ความเร็วต่างกัน โดยรถที่วิ่งด้วยความเร็วต่างกัน 15-20 กม./ชม. หากมาใช้ถนนร่วมกันก็มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้แล้ว
สำหรับนโยบายช่องขวาห้ามขับต่ำกว่า 90 กม.ชม. นั้น นายศักดิ์สยาม ระบุว่า การกำหนดความเร็วให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.นั้น ปัจจุบันจากการสำรวจสามารถดำเนินการได้ระยะทางรวม 252 กม. ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 32 ดำเนินการระยะแรก 45.9 กม. และดำเนินการในระยะถัดไป 100 กม., ทล.1 ดำเนินการระยะแรก 17.5 กม. และดำเนินการในระยะถัดไป 37 กม., ทล.2 ดำเนินการระยะแรก 6 กม. และดำเนินการในระยะถัดไป 19 กม., ทล.4 ดำเนินการระยะแรก 9.5 กม. และดำเนินการในระยะถัดไป 18 กม. และอยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี