“คมนาคม”เล็งออกกฏหมายห้ามขับรถช้าต่ำกว่า 90 กม./ชม.วิ่งเลนขวาสุด ลุ้น คจร.ไฟเขียว ก.พ.นี้ พร้อมสั่ง ทล. สร้างจุดจอดพักรถต้องห่างจากถนนไม่ต่ำกว่า 1 กม. หวังแก้รถติด
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้านโยบายการขยายอัตราความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม.นั้น ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เตรียมประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณานโยบายดังกล่าวภายในเดือนนี้ ซึ่งขณะนี้รอผลการทดสอบแผ่นยางกันชนครอบแบริเออร์คอนกรีต (Rubber Buffer Barrier) เพื่อเป็นหลักประกันด้านความปลอดภัย ก่อนที่จะมีการประกาศใช้ในเส้นทางที่เหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้จะมีการพิจารณาบังคับให้ผู้ที่ขับรถในอัตราความเร็วไม่ถึง 90 กม./ชม. ห้ามใช้ช่องจราจรทางด้านขวาสุด ในเส้นทางที่มี 4 ช่องจราจรขึ้นไป ที่กำหนดให้ใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 90 กม./ชม. ทั่วประเทศ โดยจะต้องมาพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเช่น กฎหมายจราจร และกฎหมายทางหลวง ก่อนที่จะเสนอให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณาในช่วงเดือน ก.พ.นี้ หลังจากนั้นจะมีการออกประกาศกฎกระทรวงภายใต้ พ.ร.บ.จราจร และมีผลบังคับใช้ต่อไป
ทั้งนี้ บทลงโทษในกรณีหากผู้ที่ขับรถในช่องจราจรขวาสุดที่ความเร็วต่ำกว่า 90 กม./ชม.นั้น จะใช้บทลงโทษเดียวกับผู้ที่ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการตัดคะแนนใบขับขี่ด้วย ขณะที่การกำหนดความเร็วให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.นั้น ปัจจุบันจากการสำรวจสามารถดำเนินการได้ ระยะทางรวม 252 กม. ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 32 ดำเนินการระยะแรก 45.9 กม. และดำเนินการในระยะถัดไป 100 กม., ทล.1 ดำเนินการระยะแรก 17.5 กม. และดำเนินการในระยะถัดไป 37 กม., ทล.2 ดำเนินการระยะแรก 6 กม. และดำเนินการในระยะถัดไป 19 กม., ทล.4 ดำเนินการระยะแรก 9.5 กม. และดำเนินการในระยะถัดไป 18 กม. และอยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติม
สำหรับการออกประกาศกฎกระทรวงรองรับการใช้ความเร็วดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ทางหลวง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน มี.ค. นี้รวมถึง ทล. ต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขสภาพพื้นที่ในภาพรวมเช่น ติดตั้งป้ายจราจร เส้นจราจรเพื่อควบคุมการเดินรถ อุปกรณ์กั้นให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสม และต้องมีการสำรวจสายทางที่มีความพร้อม โดยต้องมีความปลอดภัย และอธิบายให้ประชาชนเข้าใจอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามการก่อสร้างทางหลวงในอนาคตให้พิจารณาไม่ใช้เกาะกลางแบบหญ้าตามความเหมาะสมของพื้นที่
นอกจากนี้ยังได้มีการมอบนโยบายวางแผนการสร้างจุดพักรถตามเส้นทางสำคัญโดยการสร้างจุดพักรถต้องอยู่รอบมอเตอร์เวย์ สาย 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายจำกัดเวลาวิ่งของรถบรรทุก และรองรับรถบรรทุกมาใช้บริการ เบื้องต้นจะสร้างจุดจอดพักรถใน 4 ทิศทาง ได้แก่ ทิศเหนือ ตะวันออก ใต้ และตะวันตก หรืออาจมากกว่า 4 จุดได้ตามความเหมาะสม เพื่อรองรับรถบรรทุก 50,000 คันต่อวัน โดยต้องพิจาณาแนวทางดำเนินการอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจุดพักรถบรรทุกดังกล่าวต้องมีระยะห่างจากถนนไม่น้อยกว่า 1 กม. เช่นกันและอาจมีบริการสถานีน้ำมัน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่ ห้องน้ำ และร้านอาหาร เพื่อมาใช้บริการได้
อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ทล. และสำนักงานนโยบายและแผนขนส่งและจราจร (สนข.) บูรณาการร่วมกันส่วนวิธีการดำเนินการต้องพิจารณารูปแบบที่เอกชนจะดำเนินการด้วยว่ามีต้นทุนอย่างไร โดยการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) หรือการดำเนินงาน และบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) รวมถึงพิจารณามอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และ สายบางปะอิน-นครราชสีมาด้วย โดยเรื่องนี้ต้องดำเนินการทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี