วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
'คมนาคม'ชงเก็บค่าธรรมเนียม-ภาษีเพิ่มรถทุกประเภทที่ก่อให้เกิดปัญหา PM 2.5

'คมนาคม'ชงเก็บค่าธรรมเนียม-ภาษีเพิ่มรถทุกประเภทที่ก่อให้เกิดปัญหา PM 2.5

วันศุกร์ ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563, 20.40 น.
Tag : คมนาคม คมนาคม ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ฝุ่นPM 2.5
  •  

“คมนาคม” ชงเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มรถทุกประเภทที่ก่อให้เกิดปัญหา PM 2.5 พร้อมสั่งขนส่งฯเร่งศึกษาภายใน 1 เดือนคาดมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมประสานแผนปฏิบัติการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ว่าสืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 เมื่อ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในเป็นประธานคณะกรรมการฯ ซึ่งในที่ประชุมได้มีการเห็นชอบร่วมกันให้ยกระดับปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติและขอให้มีการนำมาตรการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2562 มาบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการดังกล่าวแบบ Single Command และพล.อ.ประวิตร ยังได้สั่งการให้ผู้ว่าฯกทม.เป็นผู้พิจารณามาตรการที่จะเข้มขันขึ้นตามสภาพการณ์ที่เหมาะสมกับปริมาณฝุ่น PM 2.5 เพื่อไม่ให้มีผลต่อสุขภาพของประชาชน


ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมคือให้ทางกระทรวงคมนาคมจัดหาเครื่องมือตรวจวัดควันดำ(แบบทึบแสง) เพิ่มเติมให้เพียงพอ และให้กรมการขนส่งทางบกและตำรวจ เพิ่มความเข้มขันในการตั้งด่านตรวจควันดำให้ครบทั้ง 50 จุดทั่วกรุงเทพมหานครตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563 ซึ่งก็ได้มีการสั่งการเพิ่มเติมให้มีการตรวจควันดำทั้งประเทศเพื่อให้สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ต้นทางและให้ส่วนราชการตรวจสอบยานพาหนะของส่วนราชการเองให้อยู่ในสภาพที่ดีไม่มีควันดำที่ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินการอยู่แล้ว รวมถึงให้ส่วนราชการพิจารณาการปรับการทำงานเหลื่อมเวลาและให้ราชการลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง

ส่วนในการประชุมครั้งนี้ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้มีการรายงานผลการตรวจสอบควันดำตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2562 ถึง 22 ม.ค. 2563 ว่าทางกรมการขนส่งทางบกได้มีการตรวจสอบรถบรรทุก , รถโดยสารที่มีควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไปแล้วทั้งหมดจำนวน 57,971 คัน โดยตรวจพบรถที่มีควันดำเกินกฎหมายกำหนด จำนวน 1,087 คัน ซึ่งได้พ่นเครื่องหมายห้ามใช้รถดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งหลังจากพ่นเครื่องหมายแล้วหากมีการนำรถกลับมาให้โดยยังไม่ผ่านการตรวจสอบจะมีโทษปรับครั้งละ 50,000 บาท

ส่วนกรณีที่เป็นรถส่วนบุคคลจะขึ้นกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)จะมีโทษปรับครั้งละ 1,000 บาท  รวมถึงได้การสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯจัดทำแผนรายงานดำเนินการแก้ไขปัญหาของแต่ละหน่วยงานอย่างไรทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยได้มีการหน่วยงานที่มีการบริการสาธารณะเป็นพิเศษ  เช่น รถเมล์ ขสมก. ,รถร่วมบริการ และรถ บขส. รวมถึงการรถไฟฯ เป็นต้น 

ขณะที่แนวทางการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ของกรมการขนส่งทางราง (ขร.) นั้น ขร.เตรียมหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในการลดอัตราค่าจอดรถ 50% ในอาคารจอดแล้วจร (PARK & RIDE) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาจราจร และถือเป็นมาตรการในการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนด้วย

อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาแนวทางการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีในการต่อใบอนุญาต รวมถึงจดทะเบียนรถใหม่ในรถทุกประเภทที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน และไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และหลังจากนี้ทางกระทรวงคมนาคมจะต้องบูรณาการประสานงานร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งความร่วมมือจากภาคประชาชนด้วย

นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกจะต้องศึกษาการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต เพื่อเป็นมาตรการสำหรับกำหนดให้รถที่ใช้พลังงานสะอาดมีราคาถูกลง พร้อมทั้งพิจารณาการดำเนินการในการรองรับในทุกด้าน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถระบบไฟฟ้า (EV) รวมถึงเชื้อเพลิง NGV และเชื้อเพลิงไบโอดีเซล B20 มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน จากนั้นจะมีการจัดรับฟังความคิดเห็นกับประชาชน ก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ หากเห็นชอบคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ​ขบ. มีมติห้ามรถโดยสารสองชั้นเดินรถในเส้นทางเสี่ยง สี่แยกกบินทร์บุรี - วังน้ำเขียว ​ขบ. มีมติห้ามรถโดยสารสองชั้นเดินรถในเส้นทางเสี่ยง สี่แยกกบินทร์บุรี - วังน้ำเขียว
  • กสม.ชี้ EIA รถไฟความเร็วสูง\'กรุงเทพฯ-นครราชสีมา\'ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน กสม.ชี้ EIA รถไฟความเร็วสูง'กรุงเทพฯ-นครราชสีมา'ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน
  • ดีเดย์ ต.ค.นี้!‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ครอบคลุมทุกสายทั้งกรุงเทพและปริมณฑล ดีเดย์ ต.ค.นี้!‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ครอบคลุมทุกสายทั้งกรุงเทพและปริมณฑล
  • ไทยจับมือบังกลาเทศ เชื่อมโยงท่าเรือระนอง - จิตตะกอง ไทยจับมือบังกลาเทศ เชื่อมโยงท่าเรือระนอง - จิตตะกอง
  • มนพร เผยเชื่อมโยงท่าเรือระนอง - ท่าเรือจิตตะกอง ยกระดับท่าเรือไทยสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ทางทะเลในภูมิภาคอาเซียน มนพร เผยเชื่อมโยงท่าเรือระนอง - ท่าเรือจิตตะกอง ยกระดับท่าเรือไทยสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ทางทะเลในภูมิภาคอาเซียน
  • ไทยเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมบริการเรียกรถผ่านแอปฯ ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรก ไทยเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมบริการเรียกรถผ่านแอปฯ ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรก
  •  

Breaking News

ไม่เป็นความจริง! กกต.โต้ข่าวลือ ส่งผลสอบคดีฮั้ว สว. เข้ากกต.ชุดใหญ่ 14 ก.ค.นี้

'นิ้ง โศภิดา'เคลื่อนไหวแล้ว! ร่ายยาวแจงดราม่า'เลือกช่วยสามีก่อนลูก' ลั่นอย่าตัดสินแค่คำพูดสั้นๆ

‘เสธ.โหน่ง’ชี้ไทยต้องทบทวนสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน 4 เงื่อนไข'ทรัมป์'บทเรียนที่ต้องรับมือ

รักแท้ไม่มีข้อจำกัด! หนุ่มชลบุรีพบรักสาวตัวเล็ก110ซม. พิสูจน์รักแท้4ปีสู่ชีวิตคู่

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved