นายกฤษดา สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนทติเซนท์ จำกัด (Netizen) ที่ปรึกษาการวางระบบซอฟต์แวร์การบริหารจัดการทางธุรกิจ (ERP) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการประมูล 5G ผ่านไป Netizen มองว่า จะส่งผลให้เกิดการลงทุนด้านซอฟต์แวร์อย่างมหาศาลไม่ต่ำว่า 400,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี
นอกจากนี้ยังจะเกิดปรากฏการณ์การลงทุนทางด้านอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงกับ Internet of Things (IoT)หรือ IoT Devices เนื่องจากระบบ 5G สามารถรองรับการใช้งาน 1 ล้านเครื่อง ต่อตารางกิโลเมตร เมื่อเทียบกับ 4G ที่รองรับเพียง 1 แสนเครื่องต่อตารางกิโลเมตร โดยไม่ได้จำกัดเพียงโทรศัพท์มือถือและแท็บเลตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องจักร รถยนต์ อุปกรณ์เซ็นเซอร์ และเครื่องมือทางการแพทย์
ทั้งนี้ผลวิจัยของ Forbes ระบุว่าในปี 2567จะมี IoT Devices ทั่วโลกที่เชื่อมต่ออินเตอร์เนตมากถึง 2.2 หมื่นล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีเพียง 7 พันล้านเครื่อง ทำให้เกิดปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาล ดังนั้นในปี 2562-2563 องค์กรแต่ละแห่งเริ่มจะขยับองค์กรตัวเองให้เป็น Intelligence Enterprise ให้ได้
ด้านนายเสรี สาธุกิจชัย ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากการประมูล 5G องค์กรต่างๆ จะเริ่มเปลี่ยนเข้าสู่ระบบ Cloud Computing ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการกล่าวถึงอย่างมาก แต่องค์กรเพียง 10% ที่เปลี่ยนสู่ Cloud Computing
เนื่องจากเมื่อมีใช้งาน 5G จะเกิดปริมาณข้อมูลมหาศาล กระตุ้นให้องค์กรย้ายไปใช้ระบบ Cloud Computing
“การนำเทคโนโลยีจาก 5G มาปรับใช้ในธุรกิจ และในทุกอุตสาหกรรมนั้น ล้วนมีโอกาสได้รับประโยชน์ หากองค์กรเตรียมรับมือในเชิงรุก เพื่อยกระดับศักยภาพให้กับธุรกิจ โดยไม่ปล่อยให้เทคโนโลยีเป็นผ่านเข้ามาดิสรัปชั่น ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมการผลิต สามารถช่วยลดข้อผิดพลาดในกระบวนการ ลดการเกิด Human Errorลง เช่นเดียวกันกับภาคอุตสาหกรรมด้าน Health Care ยังสามารถช่วยให้การรักษาผู้ป่วยได้มีประสิทธิภาพ และบริการได้ทั่วถึงมากขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าใน 2-3 ปีเทคโนโลยี 5G จะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อภาคธุรกิจในวงกว้าง เนื่องจากความเร็วและการส่งผ่านของข้อมูลที่มีความเสถียรของเทคโนโลยีจะทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ (Business Model) ที่ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ และอาจจะส่งผลเกิดการ
ดริสรัป (Disrupt) บางธุรกิจออกไป แต่ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้ามาของ Business Model ใหม่ๆ และส่งผลต่อธุรกิจในทุกๆ ด้าน อาทิ การพัฒนาสินค้า การพัฒนาด้านบริการ และการพัฒนาในส่วนของกระบวนการทางธุรกิจ ฉะนั้นผู้ประกอบการจะต้องเร่งศึกษา และปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้รองรับกับสภาพแวดล้อมของ 5G