คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) หอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้ประชุมเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อยื่นข้อเสนอต่อภาครัฐเพื่อรองรับผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19)
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสอท.ในฐานะประธาน กกร. กล่าวว่า ที่ประชุมจะยื่นข้อเสนอต่อภาครัฐ ประกอบด้วย 1.ให้ภาครัฐดูแลโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นยิ่งยวด Critical Industry and Supply Chain (CISC) และการขนส่งสินค้า (Logistics) เพื่อป้องกันไม่ให้อุตสาหกรรมดังกล่าวหยุดชะงัก 2.ขอให้งดการจ่ายประกันสังคมสำหรับลูกจ้างและนายจ้าง เป็นระยะเวลา 4 เดือน
3.ให้ภาครัฐเพิ่มเงินช่วยเหลือลูกจ้างที่ว่างงาน หรือถูกเลิกจ้างจากเดิม 50% เป็น 80% 4.ขอเลื่อนการจ่ายค่าน้ำและค่าไฟออกไป 4 เดือน 5.ให้ภาคเอกชนหักค่าใช้จ่ายได้ 3 เท่า กรณีใช้งบประมาณเพื่อป้องกัน COVID-19 6.ให้ระบบสาธารณูปโภคให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง 7.หน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจติดต่อกับภาคเอกชน สามารถให้บริการทางออนไลน์ได้ และ 8.ให้ผู้ขนส่งสินค้าสามารถส่งสินค้าได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค-บริโภค
ทั้งนี้ กกร. จะมีการประชุมในวันที่ 8 เมษายนนี้ เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจอีกครั้ง ทั้งจีดีพี การส่งออก และเงินเฟ้อ ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยขณะนี้อยู่ในทิศทางที่ไม่ดี โดยหลายหน่วยงานเริ่มมีการปรับประมาณการจีดีพี และการส่งออกแล้ว
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การชะลอการเลิกจ้าง เสนอให้มีการให้การสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อนำไปจ่ายให้กับลูกจ้าง โดยการตั้งกองทุนอาจจะร่วมกับเอกชนในการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการเพื่อนำไปจ่ายค่าแรง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทั้งพักชำระหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารให้แก่ SMEs รวมทั้งให้วงเงินกู้เพิ่มเติมกับธุรกิจที่ขาดสภาพคล่อง รวมทั้งเสนออนุญาตให้มีการจ้างงานรายชั่วโมง เพื่อป้องกันปัญหาการเลิกจ้างแรงงาน
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดได้มีการเตรียมการรองรับสถานการณ์เป็นอย่างดี โดยทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งแผนที่มีการเตรียมการในภาวะฉุกเฉินนั้น เรื่องของเงินสดต้องเรียนว่าธนาคารพาณิชย์ต่างๆ มีความพร้อม
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) ในฐานะตัวแทนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ยืนยันบริษัทจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในการกระจายอาหาร เครื่องดื่ม เวชภัณฑ์ไม่ให้ขาด แต่ต้องมีการพึ่งพาภาครัฐในเรื่องของซัพพลายเชน การขนส่งหรือโลจิสติกส์ ซึ่งจะต้องช่วยกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดการขาดหายในระหว่างการขนส่ง เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญในกรณีที่รัฐต้องมีการกักตัว การเดินทางไปมาของผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะการขนส่งในระบบซัพพลายเชนทั้งหมดยังต้องมีความต่อเนื่อง
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจกล่าวว่า อยากให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าจะมีสินค้ากระจายออกไปได้อย่างทั่วถึงส่วนในภาคขององค์กรเองบริษัทก็พร้อมที่จะดูแลพนักงาน พันธมิตรและคู่ค้าอย่างเต็มความสามารถ ทั้งการออกนโยบายที่สอดคล้องกับมาตรการของรัฐในการรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCG กล่าวว่า มีความพร้อมที่จะร่วมมือในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ เพื่อที่จะทำให้การให้บริการหรือสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และจำเป็นในแง่ของสาธารณูปโภคของสาธารณชนมีการดำเนินการไปได้โดยไม่ติดขัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี