นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ กระทรวงพลังงานจะประกาศให้มีการยกเลิกการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 และผลักดันน้ำมันเบนซิน E20 ให้เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศ เพื่อลดชนิดของน้ำมันในตลาดให้มีความเหมาะสม ไม่ให้มีหลากหลายชนิดมากจนเกินไป ทางกระทรวงพลังงานจึงมีการประชุมคณะผู้บริหาร โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เตรียมทบทวนแนวทางการปรับโครงสร้างราคาเอทานอลใหม่ ให้เหมาะสมสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง สอดรับกับสถานการณ์การผลิต และความต้องการใช้เอทานอลในตลาดให้มีความสมดุล ป้องกันปัญหาความไม่สมดุลของ Demand และ Supply ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคาเอทานอลในอนาคต
“การทบทวนแนวทางปรับโครงสร้างราคาเอทานอลในครั้งนี้ เพื่อเป็นการบูรณาการให้เกิดความสมดุลทั้งปริมาณการผลิต การใช้ และราคา ของเอทานอลให้มีความเหมาะสม สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ปิดช่องว่างปัญหาระหว่างทางที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ โดยไม่เป็นภาระต่อค่าครองชีพของประชาชนในอนาคต ตามแนวทางที่รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้ไว้”นายกุลิศกล่าว
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า สถานการณ์พลังงานปี 2563 พบว่า ความต้องการใช้พลังงานเกือบทุกชนิดเชื้อเพลิงลดลง ในขณะที่พลังงานทดแทนมีการใช้เพิ่มขึ้น 0.4% ไฟฟ้านำเข้ามีการใช้เพิ่มขึ้น 7.1% เนื่องจากปลายปี 2562 มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำของประเทศลาวเริ่มจ่ายเข้าระบบจำนวน 3 โรง
สำหรับแนวโน้มการใช้พลังงานปี 2564 ทาง สนพ. ได้มีการพยากรณ์โดยอ้างอิงสมมุติฐานด้านเศรษฐกิจ และนโยบายที่เกี่ยวข้องมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้พลังงาน โดย สศช. คาดว่า
ในปี 2564 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะขยายตัว3.5-4.5% ด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสศช. คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2564คาดว่าจะอยู่ในช่วง 41-51 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะอยู่ในช่วง 30.3-31.3 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และคาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2564 จะขยายตัวลดลง 4.9%
ทั้งนี้ สนพ. ได้คำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้น โดย สนพ. ได้ประมาณการความต้องการใช้พลังงานในปี 2564 คือ 1.ในกรณีที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ 1 ครั้ง และ 2.กรณีที่เกิดการระบาดมากกว่า 1 ครั้ง ในรอบปี 2564 โดยการใช้พลังงานขั้นต้น ปี 2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย0.2-1.9% จากการเพิ่มขึ้นของพลังงานเกือบทุกประเภท ยกเว้นการใช้น้ำมันที่ลดลง -1.9 ถึง -2.9%โดยคาดการณ์ว่าการใช้ก๊าซธรรมชาติจะมีการใช้เพิ่มขึ้น 0.1-4.1% การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์คาดว่าจะมีการใช้ค่อนข้างทรงตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1-0.4%ส่วนการใช้พลังงานทดแทน คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้น5% จากนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของภาครัฐ และไฟฟ้านำเข้า คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้น 0.1%
ขณะที่การใช้น้ำมันสำเร็จรูป ปี 2564คาดว่ามีการใช้ลดลง -1.9 ถึง -2.9% โดยคาดว่าการใช้น้ำมันเครื่องบิน จะลดลง -45.8ถึง -51.5% ตามการหดตัวของการท่องเที่ยว และ การใช้ LPG ในส่วนที่ไม่รวมการใช้เป็น Feed stocks ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี คาดว่าจะลดลง -0.7 ถึง -2.7% ส่วนการใช้น้ำมันดีเซล คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8-1.3 ส่วนการใช้เบนซินและแก๊สโซฮอลล์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3-0.8% -15.8 ส่วนก๊าซธรรมชาติ ปี 2564 คาดว่าการใช้จะเพิ่มขึ้น 0.1-4.1%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี