นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยเผยว่าผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบค้าปลีก (Retailer SentimentIndex : RSI) เดือนมกราคม 2564โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทยร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยสำรวจเป็นรายเดือนพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วประเทศเดือนมกราคม 2564 ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ อย่างไรก็ตามสมาคมฯมองว่าความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้นรวมทั้งหวังว่าภาครัฐน่าจะมีมาตรการเยียวยาและกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นทุกประเภทของร้านค้าปลีกลดลงชัดเจน โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกร้านอาหารซึ่งได้รับผลกระทบของมาตรการภาครัฐที่ประกาศปิดศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารในเวลา 3 ทุ่ม แต่ผลจากการใช้มาตรการการทำงานจากบ้าน (WFH)ทำให้ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ซ่อมบำรุง เฟอร์นิเจอร์ กลับมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นสวนทางกลับกับร้านค้าปลีกอื่นๆ สำหรับแนวโน้มดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า ห้างสรรพสินค้ายังคงมีความเชื่อมั่นที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยกลาง สะท้อนว่ามีความมั่นใจว่าภาครัฐต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง 3 เดือนข้างหน้า
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อพบว่า ลดลงมากและรวดเร็ว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นการจับจ่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคที่หดตัวลงมาก เมื่อเทียบดัชนีประเภทร้านค้าทั้งสามประเภท ดูเหมือนว่าไฮเปอร์มาร์เก็ตจะวิตกกังวลมากกว่าร้านค้าสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต เมื่อพิจารณาถึงดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า ไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ตกลับมีความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการภาครัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 เดือนข้างหน้า แต่ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนของร้านค้าสะดวกซื้อเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเล็กน้อย สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในมาตรการภาครัฐเช่น โครงการคนละครึ่ง ซึ่งร้านค้าสะดวกซื้อไม่ได้รับประโยชน์เลย
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของร้านค้าวัสดุก่อสร้างกลับดีขึ้นสวนทางกับร้านค้าประเภทอื่นๆ ที่ลดลงรุนแรงสะท้อนได้ว่าร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการปรับวิถี New Normal ทำงานจากที่บ้านทำให้นิยมปรับภูมิทัศน์ภายในที่อยู่อาศัย ประกอบกับช่วงจัดซื้อจัดจ้างงบประมาณก่อสร้างภาครัฐและวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างปรับราคาสูงขึ้นทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นในธุรกิจร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ
ผลจากดัชนีความเชื่อมั่นประเภทร้านอาหาร ภัตตาคาร และเครื่องดื่ม ที่ลดลงมากอาจเป็นเพราะร้านอาหารมักเป็นธุรกิจที่อ่อนไหวต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดเวลาการให้บริการและจำนวนการให้บริการแต่ละรอบที่ลดลงจากมาตรการเว้นระยะห่าง Social Distancing แต่ความเชื่อมั่นร้านอาหารภัตตาคาร เครื่องดื่ม ในอีก 3 เดือนข้างหน้าก็ดีขึ้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ภาครัฐน่าจะควบคุมด้วยมาตรการที่เข้มข้นได้ดีสมาคมฯคาดการณ์ว่า การฟื้นตัวในระยะข้างหน้าจะแตกต่างกันที่สำคัญ หากการระบาดของโควิด-19 กินเวลายาวนานขึ้น ความแตกต่างของการฟื้นตัวนี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้น
นายญนน์กล่าวว่าจากการประเมินผลกระทบต่อยอดขายและกำลังซื้อและผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ระลอกใหม่ จากมุมมองผู้ประกอบการพบว่าได้รับผลกระทบด้านยอดขาย ที่ลดลง 10-30%ทำให้สภาพคล่องที่เหลืออยู่จะดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 6 เดือน หากไม่มีมาตรการเยียวยาและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตรงเป้าผู้ประกอบการกว่า 80% ประเมินว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงมากว่า 25% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2563
ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเรื่องสภาพคล่องอย่างเร่งด่วนด้วยมาตรการภาษีลดภาระค่าใช้จ่าย สนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์พิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน)แก่ผู้ประกอบการโดยเร็ว และต้องการให้ภาครัฐประกาศการจ้างงานเป็นรายชั่วโมง เพื่อให้สอดคล้องกับการบริการต่อผู้บริโภคที่มาเป็นช่วงเวลา โดยใช้กับธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี