วอลโว่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์อนาคต แห่งยานยนต์พลังงานสะอาดที่ยั่งยืน เปิดตัวเอสยูวีพลังไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์ “THE NEW VOLVO XC40 RECHARGE PURE ELECTRIC” ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมนำเสนอรถยนต์วอลโว่ Plug-in Hybrid อีกหลากหลายรุ่น
มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วอลโว่ได้ประกาศความมุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์ ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งความมุ่งมั่นนี้ได้ปรากฏเป็นรูปธรรม เมื่อเราได้เปิดตัว THE NEW VOLVO XC40 RECHARGE PURE ELECTRIC รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์ อย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์ ถือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ อันน่าตื่นตาตื่นใจของวอลโว่ ซึ่งเราเปิดให้ลูกค้าสั่งจองแล้วในปัจจุบัน และจะดำเนินการจัดส่งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป โดยเราวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยสมบูรณ์รุ่นใหม่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการส่งเสริมทางเลือกยานยนต์พลังงานสะอาดระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมสมรรถนะดีเยี่ยม รูปลักษณ์ที่หรูหรา และฟีเจอร์ไฮเทคครบครัน พร้อมความปลอดภัยขั้นสูงสุดในการขับขี่ ทั้งเพื่อโลก และเพื่อคุณ”
The New Volvo XC40 Recharge Pure Electric เอสยูวีพลังไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ที่สามารถอัดประจุไฟได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง และใส่ใจต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรของโลกอย่างยั่งยืน
ขุมพลังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 78 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถขับได้ไกลกว่า 400 กิโลเมตรเมื่อชาร์จเต็ม (ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP) โดยเครื่องชาร์จไฟฟ้าที่บ้านแบบมาตรฐาน (Wallbox EV Changer) ขนาด 11 กิโลวัตต์ จะใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-100% ประมาณ 6-8 ชั่วโมง และสามารถชาร์จไฟได้ 80% ในเวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น ผู้ขับขี่ยังสามารถตั้งเวลาชาร์จไฟรถยนต์ได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชั่น Volvo on Call
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่หรูหราทันสมัยในทุกมุมมอง อาทิ ตะแกรงหน้าถูกออกแบบใหม่ให้เป็นฝาครอบ แบบยูนิบอดี้ติดโลโก้วอลโว่ อย่างชัดเจน มอบภาพลักษณ์แนวร่วมสมัย ที่สวยโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ส่วนพื้นที่ใต้ฝากระโปรงหน้า ซึ่งไม่ต้องติดตั้งเครื่องยนต์เชื้อเพลิง ถูกเปลี่ยนเป็นช่องเก็บสัมภาระสไตล์ใหม่ในชื่อ “ฟรังก์ (Front Trunk)” ซึ่งเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้นอีก 31 ลิตร และด้วยเครื่องยนต์แบตเตอรี่ที่ไม่ปล่อยไอเสียเลยแม้แต่น้อย จึงสามารถตัดส่วนท่อไอเสียออกได้ทั้งหมด เหลือไว้เฉพาะฟอร์มรถยนต์ที่สวยงามหมดจดอย่างแท้จริง รวมถึงดีไซน์หลังคาใหม่ ในโทนสีดำ สอดรับกับดิฟฟิวเซอร์แบบใหม่ และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์สีดำเงา 5 ก้าน แบบ Black Diamond Cut รวมถึงฟีเจอร์ประตูท้ายระบบไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารเน้นโทนสีดำชาร์โคล เพื่อมอบภาพลักษณ์ที่หรูหรา ทันสมัย แฝงกลิ่นอายแนวสปอร์ต เสริมด้วยรายละเอียดการตกแต่งที่ประณีตภูมิฐาน อาทิ คันเกียร์หุ้มหนัง Nappa Leather สีดำเนื้อละเอียดตัดกับตะเข็บสีขาว เบาะนั่งและส่วนตกแต่งภายในทั้งหมด ถูกหุ้มด้วยหนังสีดำชาร์โคล และเก็บรายละเอียดด้วยอลูมิเนียม
นอกเหนือจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการแสดงผลแบบกราฟิกใหม่ล่าสุด ผู้ขับสามารถเลือกเลย์เอาต์หน้าจอได้ทั้งแบบ Calm Mode, Nevi Mode และ Car Centric Mode ซึ่งแสดงทั้งข้อมูลสถานะเครื่องยนต์ ระดับแบตเตอรี่ การประจุไฟ ตลอดจนข้อมูลระหว่างการขับขี่ทั้งหมดซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยไม่เสียสมาธิในการควบคุมรถ รวมทั้งเป็นครั้งแรกที่วอลโว่ได้ร่วมมือกับ Google ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS เพื่อให้ผู้ขับมีความคุ้นเคย และสามารถใช้งานแอปต่าง ๆ ได้ไม่ต่างจากบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น Google Maps, Google Assistant และระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านคำว่า “Hey Google” เพื่อใช้ควบคุมแอปเพื่อความบันเทิงต่าง ๆ อย่าง Sportify และแอปจาก Third party อื่น ๆ บน Google Plays
ด้านความปลอดภัย มาพร้อมระบบช่วยขับขี่ขั้นสูงเต็มรูปแบบ อาทิ Driver Assist with Pilot Assist (ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ) และ Adaptive Cruise Control (ระบบควบคุมความเร็วแปรผันเพื่อรักษาระยะห่าง), Collision Avoidance (ระบบเลี่ยงการชนและหยุดรถอัตโนมัติ) ซึ่งทำงานได้แม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง, 360 Camera (ระบบกล้องรอบทิศทางช่วยในการจอดรถ), Blind Spot Information System : BLIS (ระบบแจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับของสายตา), LED active bending headlights with active high beam ด้วยไฟหน้าแบบ LED หักเหตามพวงมาลัย พร้อมระบบไฟสูงอัตโนมัติ ,Cross Traffic Alert with Auto Brake (ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด พร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ), Lane Keeping Aid (ระบบแจ้งเตือนด้วยแรงสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถวิ่งออกนอกช่องทางเดินรถ) และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ EA Anywhere ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ระบบไฟฟ้าของเมืองไทย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้รถยนต์พลังไฟฟ้าให้สามารถเดินทางไกลได้อย่างไร้กังวลในเรื่องการหาสถานีชาร์จไฟ โดยราคาของ The New Volvo XC40 Recharge Pure Electric ได้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟที่สถานีของ EA Anywhere เป็นเวลา 1 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยในปีแรก
สำหรับ THE NEW VOLVO XC40 RECHARGE PURE ELECTRIC มี 6 โทนสี คือ Denim Blue Metallic, Black Stone, Crystal White Pearl, Fusion Red Metallic, Thunder Grey Metallic, Glacier Silver Metallic และสีใหม่ล่าสุด Sage Green Metallic สนนราคาอยู่ที่ 2.59 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ยังมีรถยนต์ Volvo Recharge ทุกรุ่นมาอวดโฉม (XC40, XC60,XC90, S60,S90 และ V60) พร้อมข้อเสนอการเงินสุดพิเศษ เมื่อออกรถในงานและโชว์รูมวอลโว่ทั่วประเทศ กับ ดอกเบี้ย 0% นานพิเศษถึง 48 เดือน หรือ ฟรีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ยาวนานถึง 3 ปี และ ฟรี “Volvo Care Package”สำหรับรถยนต์วอลโว่รุ่น XC60 และ XC90
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถรับข้อเสนอพิเศษสำหรับทั้งลูกค้า ที่ออกรถภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 และโชว์รูมรถยนต์วอลโว่ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2564
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี