นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการคลังในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2564 ว่า มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกที่ไม่รวมทองคำ ในส่วนของความเชื่อมั่นที่สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง การฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมาตรการของภาครัฐที่มีส่วนสำคัญในการพยุงกำลังซื้อของผู้บริโภค

ทั้งนี้จากสำรวจ พบว่า การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัว 12.3% และปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 0.6% สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่องที่ 7.7% ต่อปี

ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 18.6 ต่อปี ส่วนการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ขยายตัวที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี

ในส่วนของมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐลดลง -2.6% ต่อปี แต่เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำ พบว่าขยายตัวที่ 4% ต่อปีทั้งนี้เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวต่อเนื่อง ที่ 19.7% ต่อปี อย่างไรก็ตามการส่งออกไปตลาดอาเซียน 9 ประเทศ ยังคงลดลงที่ -11.8% ต่อปี

ขณะที่เศรษฐกิจไทยด้านอุปทานปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 85.1 จากระดับ 83.5 ในเดือนมกราคม โดยได้รับมีปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกัน ส่งผลให้การดำเนินกิจการและกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการสนับสนุนกำลังซื้อของภาครัฐ สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทย กระทรวงมองว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -1.2% ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.04% ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมกราคม อยู่ที่ 52% ต่อจีดีพี

นายวุฒิพงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ไว้ที่ 2.8% โดยในช่วงไตรมาสแรกเศรษฐกิจไทยมีอัตราการฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐและเอกชนมีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริโภคภายในประเทศมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้กระทรวงจะมีการพิจารณาถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจอีกครั้งว่าจะมีการปรับประมาณการณ์เพิ่มอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์โดยรวม ทั้งภาคการส่งออก การท่องเที่ยวภายในประเทศ และการบริโภคภายในประเทศอีกด้วย