รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการศึกษาแห่งชาติและอดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการทางวิชาการ ม.รังสิต เปิดเผยว่าการคลายล็อกดาวน์ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของปีนี้แต่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์การว่างงานของนักศึกษาจบใหม่ดีขึ้น ดังนั้นขอเสนอให้มีการลดหนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ลง 10-30% เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาจบใหม่ในปี พ.ศ. 2563-2565 ที่กู้ยืมและไม่มีงานทำ พร้อมเสนอว่าผู้ที่เรียนดีมีศักยภาพและความสามารถในการเรียน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ขาดแคลนรายได้อันเป็นผลจากการล็อกดาวน์ รัฐต้องจัด“ทุนการศึกษา” ช่วยเหลือให้ได้ 100%
ทั้งนี้ จำนวนผู้ว่างงานโดยเฉพาะบรรดาแรงงานนักศึกษาจบใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานในช่วงวิกฤตการณ์ โควิดสะสมอยู่ที่ 3-3.5 แสนคนเป็นอย่างน้อย ผู้ว่างงานและว่างงานแฝงโดยรวมไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านคน อัตราการว่างงานโดยรวมดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสสองเมื่อเทียบกับไตมาสสองปีที่แล้ว
รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวถึงปัญหาการว่างงานช่วงสถานการณ์โควิด-19 ว่า สถานการณ์การว่างงานยังทำให้กองทุนประกันสังคม มีเงินไหลออกมากกว่าปกติจากกองทุนประกันการว่างงาน มีการใช้ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัยมากกว่าสถานการณ์ปกติมาก ความมั่นคงทางการเงินของกองทุนประกันสังคมในระยะยาวจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานบวกว่างงานแฝงและทำงานต่ำระดับสะสมยังเพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งต้องเข้าใจว่า คำนิยามของการว่างงาน คือ ทำงานน้อยกว่าสัปดาห์ละหนึ่งชั่วโมง และมีคนจำนวนมากทำงานไม่ถึงสิบชั่วโมงต่อสัปดาห์ซึ่งหากพิจารณาตามคำนิยามคือไม่ถือเป็นคนว่างงานแต่เป็นผู้ว่างงานแฝงเท่านั้น แต่สภาวะความเป็นจริงแห่งการดำรงชีพผู้ว่างงานแฝงเป็นผู้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และดูแลครอบครัวแล้วจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหนี้ครัวเรือนขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 90.5% ต่อจีดีพี และหนี้เหล่านี้ยังไม่นับรวมหนี้นอกระบบสถาบันการเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี