นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากสายพันธุ์โอมิครอนที่สามารถแพร่กระจายและติดต่อได้เร็วขึ้น โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวัง และขับเคลื่อนมาตรการทางสาธารณสุขโดยเฉพาะมาตรการ Bubble & Seal เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างจริงจัง ซึ่งจะเป็นการป้องกันการเกิดคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม จนเป็นเหตุให้ต้องปิดกิจการส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงานระลอกใหม่ (เดือนม.ค.–6 มี.ค.2565) พบโรงงานที่มีการระบาดจำนวน 239 โรงงานผู้ติดเชื้อรวม 3,264 คน มีโรงงานที่ร่วมมาตรการ Bubble and Seal จำนวน 2,338 โรงงาน ซึ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,500 โรงงาน
โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสะสมรวมสูงสุด 5 จังหวัดแรก ได้แก่ ชลบุรี สมุทรปราการ ระยอง ภูเก็ต และนครราชสีมา ซึ่งอุตสาหกรรม 10 ประเภท ที่พบการติดเชื้อสูงสุดในปี2564 ได้แก่ 1) อุตสาหกรรมอาหาร 2) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 3) อุตสาหกรรมโลหะ 4) อุตสาหกรรมพลาสติก 5) อุตสาหกรรมเครื่อง
นุ่งห่ม 6) อุตสาหกรรมรถยนต์ 7) อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ 8) อุตสาหกรรมยาง 9) อุตสาหกรรมก่อสร้าง และ 10) อุตสาหกรรมผลิตเครื่องมือทางการแพทย์
นายกอบชัยกล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมโดยศูนย์บริหารสถานการณ์วิกฤต หรือ CMC ได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมทุกแห่ง แจ้งประชาสัมพันธ์พร้อมส่งหนังสือไปยังหน่วยงานในสังกัดและสถานประกอบการโรงงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง “กำกับติดตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble & Seal) ในสถานประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม”เพื่อขอความร่วมมือและควบคุมสถานการณ์การระบาดให้อยู่ในวงจำกัด โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในโรงงานอุตสาหกรรม และลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เกิดจากการหยุดกิจการ
ทั้งนี้ได้ให้ดำเนินการในมาตรการสำคัญ อาทิ เร่งรัดให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมทุกขนาดในพื้นที่ความรับผิดชอบประเมินตนเองด้วย Platform Online Thai Stop Covid Plus พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำในรูปแบบ Coaching/Training แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงาน เกี่ยวกับการจัดทำมาตรการ Bubble & Seal เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ลดความเสี่ยงแพร่ระบาด ตลอดจน เน้นย้ำกลุ่มอุตสาหกรรม 10 ประเภทที่พบการติดเชื้อสูงสุดในปี 2564 ให้จัดทำตามมาตรการ Bubble & Seal อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้ฝ่ายเลขาฯ ศูนย์ CMC ทราบ เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมปฏิบัติตามมาตรการD-M-H-T-T D–Distancing : อยู่ห่างไว้M–Mask wearing : ใส่แมสกัน H–Hand wash : หมั่นล้างมือ T - Testing : ตรวจวัดอุณหภูมิ และ T-Thai Cha na : ใช้แอปไทยชนะ อย่างเคร่งครัดควบคู่กัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง อีกทั้งไม่ให้โรคโควิด-19ส่งผลกระทบกับภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี