'จุรินทร์'ตั้งเป้าสร้างรายได้กว่า 5.35 ล้านล้านบาท ในปี 65 ดันแผนอีคอมเมิร์ชชาติผ่าน ครม.วันนี้

'จุรินทร์'ตั้งเป้าสร้างรายได้กว่า 5.35 ล้านล้านบาท ในปี 65 ดันแผนอีคอมเมิร์ชชาติผ่าน ครม.วันนี้

วันจันทร์ ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 16.37 น.

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอีคอมเมิร์ซอย่างเป็นรูปธรรม รองรับการก้าวเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ New Normal ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซ ซึ่งนำเข้าและผ่านเป็นมติ ครม.วันนี้


นางมัลลิกา เปิดเผยว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ e-Commerce มีบทบาทสำคัญอย่างต่อเนื่องในการเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล Digital Economy ซึ่งเป็นนโยบายหลักของการพัฒนาประเทศไทย เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในโลกที่มุ่งสู่ยุคระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่หลอมรวมเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในนามรัฐบาลจึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ครอบคลุมในทุกมิติที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซของประเทศ โดยตั้งเป้าเพิ่มการเติบโตของการค้าอีคอมเมิร์ซ จากปี 2562 ที่มีมูลค่า 4.03 ล้านล้านบาท ให้มีมูลค่า 5.35 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.32 ล้านล้านบาท ภายในปี 2565"

"การจัดทำแผนฉบับนี้ จะช่วยสนับสนุน 5 แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 ของกระทรวงพาณิชย์ ในการให้ความสำคัญในการใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศทางธุรกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้การดำเนินการขับเคลื่อนและพิจารณากลั่นกรองร่วมกับ 20 หน่วยงาน 8 กระทรวง รวมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แผนฉบับนี้สามารถผลักดันการค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในทุกระดับและทุกภาคส่วน ตั้งแต่ในระดับประเทศ ซึ่งจะช่วยพัฒนาและส่งเสริมแพลตฟอร์มของไทยให้มีความเข้มแข็ง ลดความได้เปรียบของแพลตฟอร์มจากต่างประเทศ และลดความซ้ำซ้อนในการทำงานของทุกภาคส่วน ซึ่งจะนำไปสู่การมีระบบ Big Data ของประเทศที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มรายได้ด้วยการขยายโอกาสและเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและตลาดต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการรวมถึงเกษตรกรไทย และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจด้วยการลดต้นทุนและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำที่สะดวกยิ่งขึ้น การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย รวมถึงการพัฒนายกระดับโครงสร้างพื้นฐานและปัจจัยสภาพแวดล้อมด้านการค้าออนไลน์ทั้งระบบ ผู้ซื้อสินค้าจะมีความสะดวกสบายในการซื้อของออนไลน์ยิ่งขึ้น ภายใต้ระบบการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็งเพื่อสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์" นางมัลลิกา กล่าว

ในรายละเอียดเพิ่มเติม นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย อิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 1 (พ.ศ.2564 - 2565) ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ 1.การพัฒนาแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ (e-Marketplace) เพื่อส่งเสริมการค้าภายในประเทศและการค้าข้ามพรมแดน (Enhancement and Promotion) 2.การพัฒนาสภาพแวดล้อมและปัจจัยสนับสนุนการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในทุกด้านให้พร้อมรองรับการเติบโตของการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Ecosystem and Enabling Factors) 3.การสร้างความเชื่อมั่นในธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Trust and Sustainability) 4.การพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถใช้ประโยชน์จากธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Competency Building) พร้อมทั้งรองรับการเติบโตของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการก้าวเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และสอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล ระบุด้วยว่าแผนนี้ทำมา 4 ปี แล้วมาสำเร็จในปีนี้ยุครองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายจุรินทร์ ก่อนเข้าอนุมัติในคณะรัฐมนตรีวันนี้ เนื่องจากเป็นนโยบายที่สอดรับกับสถานการณ์การค้าในโลกยุคใหม่และกระทรวงพาณิชย์เป็นส่วนหนึ่งจะต้องปรับตัวขณะเดียวกันก่อนแผนนี้จะได้รับการอนุมัติจากครม.นั้น ทางกระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้รับนโยบายให้ปรับกลยุทธ์ในการทำงานโดยเฉพาะการทำการค้าออนไลน์และการเจรจาข้ามประเทศด้วยระบบออนไลน์มาอย่างต่อเนื่องจากนโยบายโดยการนำของนายจุรินทร์ จนสร้างปรากฏการณ์ตัวเลขส่งออกที่ผ่าน OBM Online Business Matching ด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top