เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าเต็มสูบ จัดเต็มงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021 พร้อมอวดโฉม All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ชูเทคโนโลยีล้ำสมัย เคาะราคาเริ่มต้น 8.79 แสนบาท

All New HAVAL JOLION Hybrid SUV (ออล นิว ฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด เอสยูวี) เป็นรถยนต์ในเซกเมนท์เอสยูวี-บี ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 จากแบรนด์ HAVAL และเป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 ที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำตลาดในประเทศไทย มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5L ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร มีระบบช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระแมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อมด้วยเทคโนโลยี LEMON Hybrid DHT (Dedicated Hybrid Technology) ที่พัฒนาขึ้นโดย เกรท วอลล์ มอเตอร์

โดยเป็นการผสานการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ไฮบริด และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ด้วยการขับเคลื่อนแบบไฮบริด ประสิทธิภาพสูง และประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กม./ลิตร สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) โหมดมาตรฐาน 2) โหมด Sport 3) โหมด ECO และ 4) โหมดสภาพถนนลื่น

ภายนอกโฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED มาพร้อมระบบ Daytime Running Light และระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อก พร้อมไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home กระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ไฟท้าย LED ไฟเบรกดวงที่สาม และไฟตัดหมอกหลัง และล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ตทูโทน ขนาด 18 นิ้ว

ภายในดีไซน์ภายใต้แนวคิด Future Intelligent Cockpit ให้ความรู้สึกกว้างขวาง และสะดวกสบาย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับให้กับผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อ 3 หน้าจออัจฉริยะ ทั้งหน้าจอหลักตรงกลาง แบบ ทัชสกรีน ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple Carplay MP3 JOOX พร้อมด้วยระบบนำทาง และหน้าจอ Multi Information Display ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ บนกระจกบังลมด้านหน้า

ทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน อาทิ เบาะนั่งไฟฟ้าด้านหน้าฝั่งคนขับที่ปรับได้ 6 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา และระบบช่องแอร์ด้านหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 ที่ชาร์จแบบไร้สาย ชุดเกียร์ไฟฟ้า กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start รวมถึงพื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่าง
หลากหลาย ซึ่งเบาะที่นั่งด้านหลังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 1,069 ลิตร

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งฟังก์ชั่นการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ การสั่งการและควบคุมรถผ่าน GWM Application รวมถึงระบบการช่วยเหลือและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน การเข้าโค้งอัจฉริยะ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) เป็นต้น

สำหรับราคาจำหน่าย รุ่น TECH ราคา 879,000 บาท รุ่น PRO ราคา 939,000 บาท และรุ่น ULTRA ราคา 999,000 บาท โดยมี 5 สีให้เลือก ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน สีเทา สีดำ และสีขาวโดยจะเริ่มส่งมอบรถยนต์ลอตแรกให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือน ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป

และพิเศษช่วงเปิดตัว ดอกเบี้ย 1.79% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปีเต็ม แพ็กเกจบำรุงรักษา GWM PRO Service Inclusive (GPSI) 5 ปี หรือ 100,000 กม. และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 85,000 บาท