กรังด์ปรีซ์ ฯ ประกาศความพร้อมการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม-3 เมษายน 2565 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีค่ายรถยนต์-รถจักรยานยนต์เข้าร่วมงานมากกว่า 37 แบรนด์ พร้อมอวดโฉมรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 20 รุ่น คาดเงินหมุนเวียน 3 หมื่นล้านบาทเตรียมมาตรฐานความปลอดภัย ด้านสุขอนามัยตามข้อกำหนดของภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจ ไปได้ไกล” หรือ “KEEP MOVING FORWARD TOGETHER” เพื่อสื่อถึง–ประสบการณ์สร้างการเรียนรู้ ปรับปรุง พัฒนาสรรค์สร้างแรงบันดาลใจในการเปิดประตูบานใหม่ เพื่อการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เปรียบเทคโนโลยีแห่งโลกยานยนต์ที่ไม่เคยมีวันหลับใหล กลั่นกรองผลิตผลแนวความคิดที่ทันยุคสมัย และความแปลกใหม่ให้กับโลกใบนี้ ทุกการก้าวเดินไปข้างหน้าย่อมมีอุปสรรคอยู่บนหนทางที่ก้าวเดิน และแสงสว่างแห่งความสำเร็จจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากความร่วมแรงร่วมใจ มาร่วมมือกันสร้างความสำเร็จ ฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 จะเป็นงานแสดงรถยนต์ที่มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และแรงบันดาลใจของใครหลายๆ คน ร่วมตอกย้ำการก้าวเดิน ทุกย่างก้าวด้วยความมั่นใจ ก้าวไปพร้อมกัน เพื่อความเป็นหนึ่งเดียว
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในปี 2565 เริ่มกลับมาตั้งหลัก และฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากต้องเผชิญผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงระยะเวลากว่า 2 ปี โดยในปีนี้หน่วยงานภาครัฐประเมินว่าการผลิตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศไทย จะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นหากเทียบกับปีที่ผ่านมา หลังจากที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง
“ในเวลาเดียวกันอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย กำลังเตรียมพร้อมสู่การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญจากเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปภายใน สู่เทคโนโลยีขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า รวมทั้ง การสนับสนุนจากภาครัฐ ในส่วนของการผลิตเพื่อใช้งานภายในประเทศ และการผลิตเพื่อส่งออกสู่ทั่วโลกในอนาคต ทำให้จะเป็นอีกครั้งที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น รวมทั้งโซนพิเศษเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีแห่งอนาคต บนพื้นที่จัดแสดงรวม 170,960 ตารางเมตร ซึ่งเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดีว่างานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ คืองานแสดงรถยนต์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
สำหรับบริษัทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ได้แก่ Ford, BMW, MINI, Mercedes-Benz, Great Wall Motors, Rolls-Royce, Aston Martin, Maserati, Peugeot, Jeep, Toyota, Lexus, MG, Mazda, Suzuki, Isuzu, Hyundai, Audi, Honda, Mitsubishi Motors, Nissan, Volvo, Porsche , Bentley, Kia, Subaru, TAKANO, Thai Honda Manufacturing, Suzuki Motosales, Yamaha, BMW Motorrad, Harley-Davidson, Ducati, BAJAJ, KTM และ Husqvarna
ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะจัดแสดงในงานครั้งนี้ได้แก่ Audi e-tron, Audi e-tron Sportback, Audi e-tron GT, BMW iX, BMW iX3, BMW i4, Lexus UX 300e, Mercedes-Benz EQS, MG EP Plus, MINI Cooper SE, Nissan Leaf, ORA Good Cat, Porsche Taycan, Porsche Taycan Cross Turismo, Volvo XC40 Pure Electric, Volvo C40 Pure Electric และยังมีรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายรุ่นที่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในตอนนี้
โดยภายในงานปีนี้จะมีการนำเสนอโซน EV Smart City เพื่อจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ที่ล้ำสมัย ตอบรับเทรนด์ของผู้ใช้รถยนต์ชาวไทย ที่สนใจเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น โดยมีการจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งแบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) และระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) จำนวน 8 รุ่น จากผู้ผลิตชั้นนำอย่าง BMW, Great Wall Motor, MG, MINI, Mitsubishi Motors, Nissan, Porsche และ Volvo รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อแนะนำข้อมูล และให้ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในงานอีกด้วย
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการตลาด และการขาย บริษัท กรังด์ปรีซ์ฯ และรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เปิดเผยว่า สำหรับการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 นับเป็นปีแห่งรถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มีการจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้า ภายในงานมากกว่า 20 รุ่น รวมทั้งการเข้าร่วมงานเป็นครั้งแรกของบริษัทอรุณพลัส ในเครือของปตท. เพื่อนำเสนออนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมทั้งการนำเทคโนโลยีเสมือนจริง Metaverse จากการร่วมมือกับ บริษัท ฟินน์ โซลูชั่น เข้ามาใช้เป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้ที่สนใจซื้อรถยนต์ในงานปีนี้ สามารถเลือกรถยนต์ และทดลองขับในรูปแบบ Interactive ผ่านทางโทรศัพท์มือถือส่วนตัว ซึ่งถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เข้าชมงานของเรา
“การจัดงานในปีนี้ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ทางผู้จัดงานมีการเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัทรถยนต์, บริษัทรถจักรยานยนต์ และบรรดาพันธมิตรต่างๆ ที่จะช่วยทำให้การจัดงานประสบความสำเร็จดั่งเช่นทุกปี เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศจากการมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 12 วันของการจัดงาน”
ในส่วนของมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย การจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ผ่านการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว (Amazing Thailand Safety and Health Administration: SHA) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือ ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งขอความร่วมมือจากทางสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เพื่อตั้งจุดคัดกรองผู้เข้าชมงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยจะต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม ซึ่งการจัดงานในปีนี้ทางผู้จัดงาน ได้มีการยกระดับมาตรการเพื่อให้ทุกบริษัทที่เข้าร่วมจัดแสดง และผู้เข้าชมงานทุกท่านมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเข้าชมงาน”
นอกจากนี้ในส่วนของผู้ที่สนใจกีฬามอเตอร์สปอร์ต ผู้จัดงานมีการจัดแสดงรถแข่งฮอนด้า ซิตี้ แฮตช์แบ็ก จากการแข่งขัน Honda City Hatchback One Make Race, โซนกิจกรรมดิจิตัล มอเตอร์สปอร์ต GP e Racing, บูธ Grand Prix Motor Park และโซนขายของที่ระลึก ROD ที่จะมีทั้งสินค้าออริจินัล-ลิมิเต็ด มาจำหน่ายให้กับผู้เข้าชมงานได้เลือกซื้อ
นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจ บริษัทกรังด์ปรีซ์ฯ และรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เปิดเผยว่า “การแข่งขันรถยนต์ถือเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทกรังด์ปรีซ์ มาโดยตลอด ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้จัดการแข่งขัน Honda City Hatchback One Make Race ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งมีการกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งผู้เข้าแข่งขันและผู้ชม รวมทั้งการขยายธุรกิจไปสู่ดิจิตัล มอเตอร์สปอร์ต กับการจัดแข่งขัน GP e Racing ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2562 รวมทั้งการบริหาร Grand Prix Motor Park แลนด์มาร์คของการจัดกิจกรรมกลางแจ้งแบบครบวงจรในจังหวัดกาญจนบุรี และการนำเสนอสินค้าที่ระลึก ROD ที่จัดทำขึ้นพิเศษเพื่อจำหน่ายเป็นครั้งแรก ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีนี้”
สำหรับการเข้าชมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ทางผู้จัดงานได้เปิดจำหน่ายบัตรล่วงหน้า (Early Bird) ในราคาพิเศษ 50 บาท จำนวนจำกัดผ่านทางเว็บไซต์ https://motorshow-online.com ตั้งแต่วันนี้-22 มีนาคม 2565 โดยผู้ที่ซื้อบัตรล่วงหน้าจะได้รับ QR Code เพื่อนำไปแสดงให้เจ้าหน้าที่บริเวณประตูทางเข้าหลักของอาคารชาเลนเจอร์ 1-3 รวมทั้งการจำหน่ายบัตรเข้าชมงาน ผ่านทางแอปพลิเคชั่น K-Plus การแลกคะแนนสะสมจากบัตรเครดิต KTC และช่องทางออนไลน์อื่นๆ
นอกจากนี้ทางผู้จัดงาน มีการจัดทำแอปพลิเคชั่น Car Buddy by GPI เพื่อใช้ลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับผู้ถือบัตรอภินันทนาการ รวมทั้งสามารถใช้ค้นหาบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ โปรโมชั่นจากค่ายรถยนต์ชั้นนำ ราคารถยนต์ และรีวิวรถยนต์รุ่นล่าสุด
นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านผลิตสื่อ บริษัท กรังด์ปรีซ์ฯ และรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 กล่าวว่า “นับตั้งแต่เริ่มต้นให้บริการแอปพลิเคชั่น Car Buddy by GPI ในปี 2562 ทีมงานได้มีการพัฒนาแอพพลิชั่นนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากเพื่อใช้อำนวยความสะดวกแก่ ผู้เข้าชมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ แอพพลิเคชั่น Car Buddy by GPI ได้เพิ่มบริการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ ทั้งข้อมูลศูนย์บริการ อู่ซ่อมรถ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน การค้นหาข้อมูล แนะนำการดูแลรักษารถยนต์ด้วยตัวเอง พร้อมทั้งรวบรวมโปรโมชั่นของบริษัทรถยนต์ไว้อย่างครบถ้วน เพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหารถยนต์รุ่นใหม่ สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหาในหลายเว็บไซต์เหมือนในอดีต เพียงเข้ามาใน Car Buddy by GPI แอปพลิเคชั่นเดียวเท่านั้น”
ทั้งนี้ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม -3 เมษายน 2565 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยเปิดให้เข้าชมงานเวลา 12.00-22.00น. ราคาบัตรเข้าชมงาน 100 บาท พร้อมลุ้นสิทธิ์ชิงรางวัลรถยนต์ MG EP Plus, ORA Good Cat (400 Tech), รถจักรยานยนต์ Kawasaki W175, รถจักรยานยนต์ Honda Super Cub , รถจักรยานยนต์ Yamaha GT125, และรถจักรยานยนต์ Suzuki Smash 115 FI รวมทั้งของรางวัลที่ระลึกจากผู้จัดงานอีกมากมาย มูลค่ารวมกว่า 2,940,370 บาท เพียงตอบคำถามจากการสแกนคิวอาร์โค้ดด้านหลังบัตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี