นายชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท. คาดการณ์การส่งออกไทยในไตรมาสที่สองของปีนี้เติบโต 3.5-5% โดยยังคงคาดการณ์รวมปี 2565 ทั้งปีที่ 5%ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ได้แก่ 1.สถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างยูเครนและรัสเซีย ส่งผลต่อการค้าโลกชะลอตัวโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่รัสเซียและยูเครนมีศักยภาพในการส่งออกไปทั่วโลก2.ราคาพลังงานทรงตัวในระดับสูง 3.ค่าระวางปรับลงเล็กน้อยแต่ยังทรงตัวในระดับสูง 4.แรงงานในภาคการผลิตขาดแคลนต่อเนื่อง 5.ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนและราคาผันผวน เป็นต้น
“สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายประเทศเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ สำหรับการเดินทางเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไทยที่เปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมาทำให้การเดินทางทั้งท่องเที่ยวและทำธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น ขณะที่บางประเทศยังคงเข้มงวดในเรื่องของมาตรการตรวจสอบโควิดก่อนเข้าประเทศ อาทิ ประเทศจีน ที่ล่าสุดมีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากท่ามกลางการแพร่กระจายของโควิดโอมิครอนที่สามารถติดต่อได้ง่าย อย่างไรก็ดียังคงต้องเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด” นายชัยชาญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สรท. มีข้อเสนอแนะที่สำคัญต่อภาครัฐ ได้แก่ ประการที่ 1.การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยขอให้ภาครัฐพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำโดยอ้างอิงจากปัจจัยการปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อเป็นหลัก พร้อมทั้งบริหารจัดการอัตราเงินเฟ้อไม่ให้ปรับตัวสูงเกินกว่า 5% ประการที่ 2. รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศให้อยู่ระดับที่เหมาะสม ประการที่ 3.เร่งมองหาช่องทางขยายตลาดเพิ่มเติม ประการที่ 4.เร่งกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น รวมถึงเร่งผลักดันการค้าเข้าสู่ตลาดความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ให้มากที่สุด เพื่อใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงดังกล่าว
นายชัยชาญ กล่าวถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนมี.ค. 2565 พบว่าการส่งออกมีมูลค่า 28,859.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 19.5% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 922,313 ล้านบาท ขยายตัว 28.7% ทั้งนี้เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในเดือนมีนาคมขยายตัว 8.9%
ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 27,400.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 18% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 887,353 ล้านบาท ขยายตัว 26.8% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมีนาคม เกินดุลเท่ากับ 1,459.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ 34,960 ล้านบาท
นายชัยชาญ กล่าวถึงภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยในไตรมาสแรกของปี 2565 (ม.ค.-มี.ค.) ไทยมีการส่งออกรวมมูลค่า 73,601.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 14.9% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 2,401,444 ล้านบาท ขยายตัว 26.1% ทั้งนี้เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกขยายตัว 8.7%
ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 74,545.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 18.4% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 2,466,654 ล้านบาท ขยายตัว 29.9% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลเท่ากับ 944 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 65,210 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี