"จุรินทร์"โกอินเตอร์! ร่วมงาน"อเมริกันฟิล์ม" ดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย ฟุ้งโกยเงินงานเดียวกว่า 1,000 ล้าน เป็นสักขีพยานสร้างภาพยนตร์"อินทรีแดง 2024" แฟนคลับไทยร่วมยินดี
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมงาน American Film Market & Conference (AFM) 2022 และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือ (MOU) ที่ห้อง Crimson & Indigo ที่โรงแรม Hotel Casa del Mar ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา (วันที่ 2 พ.ย.65 เวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น)
นายจุรินทร์ กล่าวว่า มี 4 กิจกรรมสำคัญ 1.กิจกรรม งานไทยไนต์ (Thai Night) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพเชิญผู้สร้างหนังผู้กำกับภาพยนตร์และผู้ที่อยู่ในวงการภาพยนตร์ไทย ให้มีโอกาสพบกับผู้ประกอบการภาพยนตร์ของต่างประเทศ 250 รายจากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งงานนี้ได้รับพระกรุณาธิคุณจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในคืนวันที่ 2 พ.ย.ซึ่งมีความสำคัญสูงสุดในการจัดงานเที่ยวนี้ และกิจกรรมที่ 2.งาน American Film Market 2022 (AFM 2022)ที่ลอสแอนเจลิส ถือเป็นงานใหญ่ 1 ใน 4 งาน ภาพยนตร์ของโลกงานที่ใหญ่สุด คือ งาน Cannes Film Festival ที่เมืองคานส์ 2.Hong Kong International Film Festival ที่ฮ่องกง 3.Busan International Film Festival ที่เกาหลี และงานนี้ใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของโลก พาผู้ประกอบการภาพยนตร์และผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ เช่น การตัดต่อหรือดึงผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ไปถ่ายทำในประเทศไทย ซึ่งมีกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมงานครั้งนี้ด้วย มีบริษัทภาพยนตร์จากประเทศไทยมาร่วม 8 บริษัท มีการซื้อขายภาพยนตร์ให้กับชาวต่างประเทศด้วย ซึ่งคาดว่าเที่ยวนี้จะสามารถทำรายได้จากการขายภาพยนตร์และบริการที่เกี่ยวข้องประมาณ 800 ล้านบาทที่มาร่วมงานครั้งนี้ 6 วัน และกิจกรรมนำผู้สร้างหนังจากต่างประเทศร่วมทุนกับผู้สร้างหนังในประเทศไทย มีการลงนามกันระหว่างบริษัท Epic Pictures Group ของสหรัฐฯ กับบริษัทฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) ของไทย ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีผลงานสร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง ซึ่งจะร่วมทุนกันสร้างหนัง "อินทรีแดง 2024" ลงทุนร่วมกันประมาณ 200 ล้านบาท สร้างเงินให้ประเทศประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับการเดินทางมาเที่ยวนี้
ซึ่งงานนี้จะเกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ทั้ง 2 ด้าน คือ 1.ดึงผู้สร้างภาพยนตร์จากต่างประเทศมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย จะมีส่วนขายซอฟต์พาวเวอร์ของไทยไปต่างประเทศด้วย เช่น สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ศิลปะวัฒนธรรม วิถีชีวิตสอดแทรกลงไปในนั้น ให้ชาวต่างประเทศรู้จักประเทศไทยมากขึ้น 2.ภาพยนตร์ที่สร้างในไทยรัฐบาลพร้อมสนับสนุน โดยเฉพาะการดึงผู้สร้างหนังจากต่างประเทศมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย
"ถ้าสอดแทรกซอฟต์พาวเวอร์ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตของไทย จะเป็นเรื่องที่ดีรัฐบาลส่งเสริมเรื่องนี้และที่สำคัญถ้าต่างประเทศมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อไม่กี่วันมานี้ ช่วยสนับสนุนให้เกิดแรงจูงใจสำหรับผู้ที่มาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศ โดยนำเงินเข้ามาใช้จ่ายในเมืองไทยถ้าจ่ายให้คนไทยไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล สามารถนำรายจ่ายมาแจ้งให้รัฐบาลคืนกลับเป็นเงินให้บริษัทนั้นสูงสุดถึง 20% ซึ่งเราถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งมีคนมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยมาแล้วกว่า 700 เรื่องและปีที่แล้ว 122 เรื่องที่มาถ่ายทำในประเทศไทย" รมว.พาณิชย์ กล่าว
ขณะที่ นายวสันต์ หอมแสงประดิษฐ์ CEO บริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า โปรเจ็กต์อินทรีแดงจะเป็นการกลับมาในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งทางบริษัท Epic Pictures Group ของสหรัฐฯ ยินดีที่จะช่วยร่วมทุน ช่วยเอื้อเฟื้อการถ่ายทำ รวมถึงจะให้ดาราฮอลลีวูดบางคนมาเล่นด้วย ส่วนที่เลือกอินทรีแดงเพราะว่าก่อนหน้านั้นภาพยนตร์เรื่ององค์บาก ต้มยำกุ้ง ดังไกลทั่วโลกมาแล้ว แต่เราไม่เคยเห็นภาพของซูเปอร์ฮีโร่ไทย ตนมองว่าด้วยยุคสมัย ถ้าบอกว่าคนคนหนึ่งมาเตะต่อยกับอีกคนคนหนึ่ง คนก็จะดูไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เหมือนที่เราเคยเห็นกันในหนังต่างประเทศก็จะเป็นอะไรที่น่าสนใจ คำว่าซูเปอร์ฮีโร่เอเชีย หรือ ซูเปอร์ฮีโร่ไทยแลนด์ มันต้องมี
"ผมมองว่าหนังไทย ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ก้าวกระโดดในตัวของมันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราจะทำหนังให้เป็นที่ต้องการของยุโรปและอเมริกายังไง เราจะใส่ความเป็นไทยลงไปยังไงในภาพยนตร์ ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าหากดูหนังเกาหลีเวลากินข้าวเขาก็จะกินพวกปิ้งย่าง หรือโซจู ส่วนอินทรีแดงที่เป็นโปรเจ็กต์ที่เรากำลังจะทำ นอกจากศิลปะการต่อสู้ที่เราจะสอดแทรกเข้าไปแล้ว ก็จะต้องมาดูในเรื่องของบทอีกว่าจะสามารถสอดแทรกความเป็นไทยอะไรเข้าไปได้อีก วันนี้ที่ได้มีการทำ MOU กันก็ดีใจที่ทางกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลตลาดภาพยนตร์ ก็จะต้องมารอดูต่อว่า หลังจากนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทย จะก้าวกระโดดไปได้ไกลกว่าเดิมมากน้อยแค่ไหน" นายวสันต์ กล่าว
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้นำผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ จำนวน 8 บริษัท เข้าร่วมงานประกอบด้วย Benetone Films , Film Frame Productions , GDH 559 , Hollywood (Thailand) , Kantana Sound Studio , M Pictures , Right Beyond และ Sahamongkolfilm International โดยนำคอนเทนต์ที่โดดเด่นกว่า 50 ผลงานเข้าร่วมนำเสนอ อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง Haunted Dormitory , Home For Rent , 5th Round , Faces of Anne , Immortal Species และ Khun Pan 3
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการประชาสัมพันธ์ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร โดยนำอาหารไทยมาเลี้ยงรับรองแขกต่างชาติที่มาร่วมงาน โดยมีเมนูอาทิ ลาบทอด ไก่สะเต๊ะ หมูพะโล้ แกงเขียวหวานไก่ กุ้งผัดผงกะหรี่ ผัดกะเพราเห็ด ข้าวยำเนื้อย่าง ถุงทอง หอยนางรมสด สลัดกุ้งและเงาะ และข้าวเหนียวสังขยา เป็นต้น ซึ่งผู้เข้าร่วมงานต่างชื่นชอบอาหารไทยที่นำมาจัดเลี้ยงภายในงานเป็นอย่างมาก
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี