นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ว่า ครม.เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะมีการลงนามในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเอเปก ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและสินค้าไทยสามารถเข้าถึงตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนได้ เช่น สินค้าเกษตรแปรรูปและผลไม้พรีเมียมของไทย ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในจีน เป็นต้น โดยปัจจุบันจีนมีตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่มาก โดยปี 2564 มีมูลค่าการค้าสูงถึง 77.55 ล้านล้านบาทมียอดผู้ซื้อออนไลน์ประมาณ 842.1 ล้านคน
ทั้งนี้ ร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและกำหนดขอบเขตความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างไทยและจีน ภายใต้ระยะเวลา 3 ปีโดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันดำเนินการ ดังนี้ 1.ส่งเสริมการค้าแบบทวิภาคีของสินค้าที่มีคุณภาพสูง อาทิ สินค้าเกษตรแปรรูปหรือผลไม้พรีเมียมของไทย เช่น ทุเรียน มังคุด และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีน บนช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขยายตลาดและเพิ่มฐานลูกค้า 2.ร่วมกันพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในด้านการขนส่ง การกระจายสินค้า เช่น การจัดตั้งจุดพักสินค้าของไทยในจีน และการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การจัดทำระบบชำระเงินระหว่างไทยและจีนให้ใช้ร่วมกันได้ 3.ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา อาทิ การอบรมสัมมนา การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ หรือการอบรม เป็นต้น 4.ร่วมกันร่างแผนปฏิบัติการประจำปีด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานร่วมกันระหว่างไทยและจีนอย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม ร่วมมือด้านพาณิชย์ฯครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าถึงตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนได้ แต่จีนยังมีต้นทุนการผลิตสินค้าต่ำกว่าไทยและผู้ประกอบการจีนมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่า ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้าของไทย ที่ประชุมเห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์เตรียมมาตรการรองรับ เช่น เร่งถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้ประกอบการไทย การพัฒนาคุณภาพสินค้าไทย เพื่อแข่งขันกับจีนในตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งกำหนดมาตรการในการควบคุมตรวจสอบผู้ประกอบการและสินค้าในตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และคุ้มครองผู้บริโภคของทั้ง 2 ประเทศ
วันเดียวกันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งออสเตรเลียว่าด้วยยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Strategic Economic Cooperation Arrangement: SECA) ซึ่งจะมีการลงนามในการประชุมเอเปกเช่นเดียวกัน ซึ่งการจัดทำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (SECA) นี้ จะช่วยสนับสนุนความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ความตกลงการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเชียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
ทั้งนี้ ร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะเกิดความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจอย่างน้อย 8 สาขาดังนี้ 1.สาขาเกษตร เทคโนโลยี และระบบอาหารที่ยั่งยืน พัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตร เกษตรอินทรีย์ และอาหารแปรรูป รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กฎระเบียบการนำเข้า และความร่วมมือด้านการพัฒนาการเกษตร2.สาขาการท่องเที่ยว และ 3.สาขาบริการสุขภาพ พัฒนามาตรฐานและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4.สาขาการศึกษาพัฒนาการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ทั้งการพัฒนาหลักสูตร การประกันคุณภาพ และการฝึกอบรมผู้สอน โดยเน้นสาขา เทคโนโลยีดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ สุขภาพ และเหมืองแร่ 5.สาขาการค้าดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความสำเร็จของโครงการต่างๆ ระหว่างกัน ตลอดจนส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจ ในกลุ่มธุรกิจ Digital Start-Up 6.สาขาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เพลง ทัศนศิลป์ (visual arts) ศิลปะการแสดง และวรรณกรรม 7.การลงทุนระหว่างกัน โดยส่งเสริมการลงทุน การอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนในการประกอบธุรกิจ 8.สาขาพลังงาน เศรษฐกิจสีเขียว และการลดการปล่อยคาร์บอน พัฒนาด้านพลังงานทดแทน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการพัฒนาพลังงานทดแทน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี