นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าปรับปรุงกฎหมายสิทธิบัตรไทยสำเร็จไปอีกขั้น ล่าสุดรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้ไทยเตรียมเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮก ว่าด้วยการจดทะเบียนการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ส่งผลให้คนไทยสามารถขอรับความคุ้มครองการออกแบบผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศได้สะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอนและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยยื่นเพียงคำขอเดียวและเลือกรับความคุ้มครองได้ถึง 93 ประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในการส่งออกในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ของคนไทย กระตุ้นให้เกิดการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมทั้งสร้างโอกาสทางการค้าให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์และนักออกแบบของไทย ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
“การเข้าเป็นภาคีกรุงเฮก เป็นการดำเนินการตามแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาของอาเซียน (ASEAN IPR Action Plan 2016-2025) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการออกแบบในภูมิภาคอาเซียน ไทยซึ่งถือได้ว่ามีนักออกแบบที่มีศักยภาพ มีการผลิตผลงานออกแบบที่มีคุณภาพ อีกทั้งให้ความสำคัญกับการจดทะเบียนผลงานการออกแบบ เพื่อขอรับความคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย โดยมีสถิติการยื่นจดทะเบียนการออกแบบผลิตภัณฑ์ของคนไทยกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาสูงถึง 3,500 คำขอต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 70% ของคำขอที่ยื่นทั้งหมด ดังนั้นการเข้าเป็นภาคีกรุงเฮก จึงนำมาซึ่งโอกาสของนักสร้างสรรค์ไทยที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศคู่ค้าสำคัญได้อย่างมั่นใจ และต่อยอดความสำเร็จได้ไกลในเวทีโลก”นายสินิตย์ กล่าว
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า หลังจากนี้กรมฯจะเดินหน้าภารกิจเพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีกรุงเฮก ทั้งในด้านการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับภาคเอกชนและภาคประชาชน ให้สามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมภาคีกรุงเฮก ด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ รวมไปถึงการแก้ไข พ.ร.บ.สิทธิบัตร และการตรากฎหมายอนุบัญญัติ เพื่อกำหนดแนวปฏิบัติให้คนไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเข้าเป็นภาคีกรุงเฮก