nn “บ้านมะขาม” ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่เริ่มต้นจากศูนย์ และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นต้นแบบ “SME DNA” ของ เซเว่น-อีเลฟเว่น ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจจึงเดินหน้าพัฒนาต่อยอดผลิตผลท้องถิ่นอย่าง “มะขามหวาน จ.เพชรบูรณ์” อย่างไม่หยุดยั้งส่งผลให้วันนี้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “บ้านมะขาม” ที่ผลิตโดย บริษัท สวนผึ้งหวาน จำกัด เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ และก้าวสู่แบรนด์สินค้าระดับโลก ที่ปัจจุบันมีวางจำหน่ายกว่า 10 ประเทศทั่วโลก
ธนนท์ โฆวงศ์ประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนผึ้งหวาน จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 เล่าให้ฟังถึงเส้นทางความสำเร็จในการสร้างแบรนด์และการทำตลาดต่างประเทศว่า ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา สินค้าหลักมีเพียง “มะขามคลุกเสวย” ซึ่งเป็นมะขามคลุกแบบไร้เมล็ด สูตรดั้งเดิมของเพชรบูรณ์เท่านั้น ช่องทางการขายคือ ขายส่งตลาดนัดดังๆ ในกรุงเทพฯ และร้านขนมมีชื่อต่างๆ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขายได้วันละหลายร้อยกิโล แต่ก็เหนื่อยมากเพราะต้องวิ่งหลายที่ จนกระทั่งในปี 2544 ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีจำนวนสาขามากถึงกว่า 1,000 สาขา คุณพ่อเลยมองว่าอยากจะนำสินค้าเข้ามาขายในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น บ้าง เพราะจะทำให้เราขายได้ทั่วประเทศ โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยวิ่งส่งเอง ไม่ต้องมีหน้าร้าน
“การขายส่งแบบดั้งเดิมทำให้เราได้เงินก็จริง แต่ไม่มีความยั่งยืน เพราะพอขายส่ง ร้านจะไม่ให้ติดแบรนด์ หรือแม้กระทั่งเบอร์โทร แต่เราอยากมีแบรนด์ อยากสร้างแบรนด์ การขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดน่าจะตอบโจทย์ของเราได้ดีที่สุด จึงตัดสินใจเข้าไปเสนอขายที่เซเว่น-อีเลฟเว่น ซึ่งทางเซเว่น-อีเลฟเว่น ก็ได้ให้โอกาสและให้คำปรึกษาที่ดีมากในทุกขั้นตอนการทำงานและกระบวนการผลิต ช่วงแรกเพียงแค่ 3 รายการ จำนวน 1,000 ชิ้นต่อวันเท่านั้น ปัจจุบันมี 40 รายการ 4 แบรนด์ ได้แก่ บ้านมะขาม, เลิฟ ฟาร์ม (LOVE FARM), พัตโตะ (Patto) และน้องใหม่ล่าสุด ปองดอง”
ธนนท์ กล่าวว่า นอกเหนือจากเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีก่อนบรรจุลงผลิตภัณฑ์ สิ่งที่ไม่อาจละเลยได้คือเรื่องการรักษาคุณภาพของสินค้าให้คงอยู่ เสมือนเพิ่งแกะออกจากฝัก ปัญหาของมะขามมีอยู่ 2 เรื่องหลักๆ คือ 1.เกิดมอดได้ง่าย 2.เมื่อโดนอากาศจะมีสีหมองคล้ำ ทำให้ไม่น่ารับประทาน เราจึงคิดค้นวิธีการแก้ปัญหาได้ออกมาเป็น “เครื่องกำจัดมอดมะขามด้วยคลื่นความถี่วิทยุ” ถือเป็นนวัตกรรมการกำจัดมอดในมะขาม 100% รายแรกของประเทศ ขณะที่ปัญหาเรื่องสีหมองคล้ำของมะขามนั้น แก้ไขโดยการดีไซน์แพ็กเกจจิ้งไม่ให้มีอากาศเข้าสู่ตัวสินค้าได้ง่ายด้วยการใช้กระป๋องฝาฟอยล์ช่วยยืดระยะเวลาการเข้าของอากาศได้อีก 2-3 เดือน จากเดิม 4-5 เดือน เป็น 6-9 เดือน
นอกจากเรื่องนวัตกรรมแล้ว เรื่องงานดีไซน์แพ็กเกจจิ้งก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะคือด่านแรกในการทำให้สินค้าได้รับความสนใจจากผู้บริโภค ดีไซน์ต้อง
โดดเด่น พรีเซนต์ตัวเองได้ มีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน เล่าเรื่องได้ในระดับหนึ่ง การที่สินค้ามีคาแร็กเตอร์และเรื่องราวช่วยให้ทำการตลาดได้ง่ายขึ้น สร้างการจดจำให้ผู้บริโภค ทำให้ง่ายต่อการต่อยอดสู่สินค้าใหม่ๆ ในอนาคต
เมื่อตลาดในประเทศแข็งแรง “บ้านมะขาม” จึงต้องมองหาโอกาสเติบโตในตลาดต่างประเทศ เต้น-ธนนท์ เล่าให้ฟังว่า การทำตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเข้าใจวัฒนธรรมการบริโภคของแต่ละประเทศให้ลึกซึ้ง เพื่อจะปรับปรุงสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 10% ของยอดขายรวม ที่เหลือ 90% เป็นยอดขายภายในประเทศ และยอดขายภายในประเทศกว่า 50% (ประมาณ 100 ล้านบาท) มาจาก
เซเว่น-อีเลฟเว่น ทั้งนี้คาดว่าในปี 2565 ยอดขายรวมของทั้งบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านบาท สำหรับในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าเติบโตที่ประมาณ 20%
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี