นางนิภา รุกขมธุร์ รักษาการรองผู้ว่าการ ยุทธศาสตร์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)เปิดเผยหลังการลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ว่า กนอ.อยู่ระหว่างจัดหาพื้นที่จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบีซีจี (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว) ตามมติ ครม. 2 พื้นที่ในจ.ลำพูน และ จ.ระยอง รวมพื้นที่ประมาณ 2,400 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวม 6,000 ล้านบาท คาดว่า จะจัดหาพื้นที่ได้ประมาณ ไตรมาส 3 ปีนี้ แบ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรม ใน จ.ลำพูน 1,000 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ2,100 ล้านบาท เน้นอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ส่วน จ.ระยอง พื้นที่ประมาณ 1,400 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาทเน้นอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ การบิน โลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพ และเคมีชีวภาพ
“ตอนนี้กนอ.อยู่ระหว่างจัดหาพื้นที่ที่จะตั้งนิคมอุตสาหกรรมบีซีจีใหม่ 2 แห่ง เป็นนิคมฯ ที่กนอ.จัดตั้งเองที่ภาคเหนือ เราจะเริ่มดูในจังหวัดลำพูนก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไม่มีจริงๆ ถึงจะไปหาในพื้นที่อื่นในแถบระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง หากหาพื้นที่ได้แล้ว โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาจัดตั้งนิคมฯแล้วเสร็จภายใน 2 ปี หรือประมาณปี 2569เชื่อว่า จะได้รับการสนใจจากนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่น ที่ชื่นชอบลำพูนเพราะอากาศใกล้เคียงกับประเทศเขา และต่อไปกนอ.จะเน้นพัฒนานิคมฯเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เพื่อดึงดูดการลงทุนที่เป็นอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” นางนิภากล่าว
ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมของไทยมีจุดเด่น ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้ เช่น ระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่มีความพร้อมทั้งเรื่องการบริหารจัดการ น้ำ ไฟฟ้า การดูแลสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสียกากอุตสาหกรรม อย่างประเทศเวียดนาม ที่ปัจจุบันมองว่า เป็นคู่แข่งสำคัญของไทย ส่วนใหญ่จะเน้นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก ขณะที่ไทย จะเน้นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรมใหม่ๆ มากขึ้น
นางนิภากล่าวว่า สำหรับนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูนมีพื้นที่ 1,788 ไร่ มูลค่าการก่อสร้างรวม 358 ล้านบาท เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2528 ปัจจุบันมีผู้ประกอบการพัฒนาพื้นที่เต็ม 100% มีนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาไทย สวิตเซอร์แลนด์ เกาหลี สหรัฐ เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ฝรั่งเศส และอินเดีย มีอุตสาหกรรมดาวเด่น เช่น อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ปัจจุบันกำลังมุ่งสู่การเป็นอุตสาหกรรมอีโค-เวิลด์ คลาส หรือมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมระดับโลก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
นอกจากนี้ นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ยังพัฒนาระบบการจัดการขยะอุตสาหกรรม ใช้วิธีการติดตามการเคลื่อนย้ายกากอุตสาหกรรมอันตรายแบบเรียลไทม์ ติดระบบอาร์เอฟไอดีแทค และระบบจีพีเอส บนรถบรรทุกขนของเสียอันตราย เพื่อนำไปยังโรงกำจัดขยะของเสียอันตราย ระหว่างเส้นทางเดินรถ ระบบจะติดตามการเคลื่อนย้ายขยะอุตสาหกรรม หรือกากอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยกนอ.ตั้งเป้าให้มีการขยายผลระบบติดตามการเคลื่อนย้ายกากอุตสาหกรรมอันตรายในลักษณะดังกล่าวให้ครบใน 14นิคมอุตสาหกรรม ภายในปี 2566
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี