นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ไทยและติมอร์เลสเต สามารถสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดของติมอร์เลสเตระดับทวิภาคี ในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) ของติมอร์เลสเต สำเร็จแล้วเมื่อวันที่ 18เมษายน 2566 ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยติมอร์เลสเต ยอมเปิดตลาด ลดเลิกภาษีศุลกากรที่เก็บกับสินค้าส่งออกหลายรายการของไทยตามที่ไทยร้องขอ ซึ่งจะช่วยให้ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ติมอร์เลสเต จะเปิดตลาดอย่างไรนั้น ต้องรอสรุปผลหลังจากที่ติมอร์เลสเตสามารถปิดการหารือการเปิดตลาดกับสมาชิก WTO ที่แสดงความจำนงขอเจรจาเปิดตลาดในระดับทวิภาคีก่อน โดยล่าสุดติมอร์เลสเตสามารถสรุปผลหารือทวิภาคีกับฟิลิปปินส์ แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป ได้แล้ว และอยู่ระหว่างหารือทวิภาคีกับอินโดนีเซีย และสหรัฐฯ

“เมื่อติมอร์เลสเต จบการเจรจาเปิดตลาดระดับทวิภาคีกับสมาชิก WTO ที่สนใจแล้ว จะต้องแจ้งข้อผูกพันการเปิดตลาดในภาพรวมกับ WTO โดยการลดหรือยกเลิกภาษีศุลกากรที่จะเก็บกับสินค้าส่งออกของสมาชิก WTO จะต้องเป็นอัตราเดียวกัน ทั้งนี้ ติมอร์เลสเต ตั้งเป้าจะจบการเจรจาให้เสร็จ เพื่อให้สามารถจบกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก WTO โดยสมบูรณ์ภายในการประชุมรัฐมนตรี WTO (MinisterialConference: MC) ครั้งที่ 13 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งจะครบ 10 ปีที่ติมอร์เลสเตแสดงความสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิก WTOเมื่อปี 2558 โดยนอกจากการเปิดตลาดสินค้าแล้ว ติมอร์เลสเต ยังต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การค้าต่างๆ ที่กำหนดไว้ในความตกลง WTO ด้วย” นางอรมน กล่าว

โดยติมอร์เลสเต มีแผนจะเดินหน้าพัฒนาให้เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางในระดับสูง (Upper Middle-Income) ภายในปี 2573 และให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยวและภาคการเกษตร โดยเฉพาะกาแฟ ประมง และอุตสาหกรรมแปรรูป ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นสาขาที่ไทยมีศักยภาพ จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะขยายการค้าการลงทุนไปยังติมอร์เลสเต