ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกเอกสารแจ้งต่อสื่อมวลชนว่าคณะกรรมการเจ้าหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบินของการบินไทยตามแนวทางที่คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการและฝ่ายบริหารนำเสนอ ในประเด็นสายการบินไทยสมายล์เป็นบริษัทย่อยของบริษัทของการบินไทย ซึ่งผลประกอบการของบริษัทย่อย รวมถึงสายการบินไทยสมายล์ถูกรับรู้ในงบการเงินรวมของการบินไทยตามมาตรฐานบัญชี การบินไทยจึงพิจารณาปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบิน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการฝูงบินให้สามารถวางแผนและพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินและเที่ยวบินให้ครอบคลุมความต้องการของผู้โดยสาร รองรับการเชื่อมต่อเที่ยวบินได้อย่างไร้รอยต่อ ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ตลอดจนยกระดับความสามารถการแข่งขันของการบินไทยในมิติต่างๆ ทั้งด้านต้นทุนการดำเนินงาน การบูรณาการและบริหารจัดการทรัพยากรและกระบวนการทำงาน การสร้างความเป็นเอกภาพในตราผลิตภัณฑ์และตำแหน่งทางการตลาด เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสาร
หลังจากนี้ บริษัทยังจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 นี้ โดยที่ผู้โดยสารยังสามารถซื้อบัตรโดยสารและใช้บริการเที่ยวบินของสายการบินไทยสมายล์ได้ตามปกติ ในระหว่างที่บริษัท ดำเนินการปรับโครงสร้างซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการต่อผู้โดยสารของสายการบินไทยสมายล์
ทั้งนี้ ขอให้ลูกค้า ผู้โดยสาร และผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านมั่นใจว่าคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการและฝ่ายบริหารได้พิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มค่าความจำเป็น และความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯเพื่อให้การดำเนินงานในภาพรวมทั้งหมดเป็นตามกรอบยุทธศาสตร์ภายใต้การฟื้นฟูกิจการ สามารถสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนในอนาคต และเป็นสายการบินแห่งชาติที่คนในชาติภาคภูมิใจ
อนึ่งสำหรับผลการดำเนินงานของ บ.การบินไทย และบริษัทย่อยสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 12,523 ล้านบาทสูงกว่าปีก่อน 15,766 ล้านบาท โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 12,514 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.73 บาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนต่อหุ้น 1.49 บาท จากมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ส่วนใหญ่เกิดจากกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ กำไรจากการขายสินทรัพย์ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยในไตรมาสที่ 1/66 มีรายการเกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ เป็นรายได้รวม 2,987 ล้านบาทสูงกว่าปีก่อน 945 ล้านบาท โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คำนวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by Hour) เป็นกำไรจำนวน 14,054 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15,431 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น41,507 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 30,326 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 271.2% สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 30,502 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 681.5% เนื่องจากไตรมาสนี้บริษัทให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารในตารางการบินฤดูหนาวปี 2565-2566 รองรับการเดินทางของผู้โดยสารสู่ 34 เส้นทางบินทั่วโลก ทั้งยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางบินยอดนิยม โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้
ขณะเดียวกัน ช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 1/66 บริษัทมีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 65 ลำ โดยมีอัตราใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน 123 ชั่วโมง มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 121.4% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น469.2% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Carbin Factor) เฉลี่ย 83.5% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 32.5% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.52 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 245.1%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี