ดร.ฉมาดนัย มากนวล ผู้อำนวยการฝ่าย Business Risk and Macro Research ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า สัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย เป็นปัจจัยเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ทั้งสองประเทศ โดยการส่งออกสินค้าของไทยไปซาอุฯและจำนวนนักท่องเที่ยวจากซาอุฯ กลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดด ขณะที่ภาครัฐและภาคเอกชนได้กระชับความร่วมมือทางธุรกิจหนุนเศรษฐกิจไทยให้มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากแผนปฏิรูปประเทศของซาอุฯ หรือ “Saudi Vision 2030”ที่มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่า GDP เป็น 2 เท่า ภายในปี 2573 (เทียบจากปี 2559) ปัจจัยหลักมาจากการลงทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (Non-oil economy) มูลค่ากว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐช่วยสร้างงานใหม่ถึง 6 ล้านตำแหน่ง
“คาดว่า จากการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและ Saudi Vision 2030 จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นถึง 57,018 ล้านบาท คิดเป็น 0.21% ของ GDP โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังซาอุฯในปี 2573 มีโอกาสสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า จากปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และคาดว่านักท่องเที่ยวซาอุฯจะมีโอกาสแตะ 2 แสนคนในอีก 7 ปีข้างหน้า สร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยวไทยราว 32,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าจากช่วงก่อนเกิดโควิด”
ทั้งนี้ ปัจจัยบวกจากการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตและแรงหนุนจากนโยบาย Saudi Vision 2030 จะสร้างโอกาสแก่ผู้ประกอบการ
3 ด้านหลักๆ ได้แก่ 1.โอกาสทางการค้า โดยการส่งออกไปซาอุฯ เติบโตแบบก้าวกระโดดในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะสินค้าที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ สินค้าในกลุ่มอาหาร เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผักและผลไม้กระป๋องและแปรรูป เครื่องดื่ม สิ่งปรุงรสอาหาร ไก่ และอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งกลุ่มนี้มีส่วนแบ่งตลาดในซาอุฯ ไม่มากนัก จึงมีโอกาสในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดคืน สินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เหล็ก และปูนซีเมนต์ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง และสินค้ากลุ่มรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
2.โอกาสของธุรกิจภาคบริการ ประเมินว่าธุรกิจท่องเที่ยว Healthcare และอสังหาริมทรัพย์ จะได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการเติบโตของลูกค้าชาวซาอุฯ ซึ่งมีจุดเด่นในด้านการจับจ่ายใช้สอยสูงและมีระยะเวลาพำนักในไทยยาวกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น 3.โอกาสการลงทุน คาดการณ์ว่าจากแผนการส่งเสริมการลงทุนของทางการและภาคเอกชน จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากซาอุฯได้ประมาณ 3-6 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทย ยังมีโอกาสไปลงทุนในซาอุฯ จากอานิสงส์นโยบายเปิดรับนักลงทุนต่างชาติภายใต้ “Saudi Vision2030” โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมายคือ อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ อาหารแปรรูป ก่อสร้าง อสังหาฯ ท่องเที่ยว และยานยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยมีความสามารถในการแข่งขัน
จากศักยภาพด้านธุรกิจและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จะส่งผลให้ธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวกับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ของไทยมีความพร้อมในการให้บริการทางการเงินที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งธุรกรรมการโอนเงินสกุลท้องถิ่นของซาอุดีอาระเบีย “ซาอุดี ริยัล (Saudi Riyal)” ของธนาคารกรุงไทย เป็นอีกตัวอย่างที่จะหนุนผู้ประกอบการในการขยายธุรกิจและการลงทุนระหว่าง2 ประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี