‘มนพร’ถกสภาอุตสาหกรรมอีสาน รุกแก้ปัญหาคมนาคม-กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน

1 ตุลาคม 2566 ดร.มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 2/2566 ที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม เป็นเจ้าภาพ โดยมีการหารือแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนอีสาน เชื่อมโยงพื้นที่อีสานตอนบน 9 จังหวัด ที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรมทุกด้าน รวมถึงเป็นการสร้างความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการพัฒนาอุตสาหกรรมทุกด้าน ที่จะเกิดประโยชน์ ในการสร้างรายได้ในพื้นที่อีสาน

โดยเฉพาะ จ.นครพนม ถือเป็นจังหวัดที่มีจุดแข็งด้านเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ที่กำลังเติบโต รวมถึงจะเป็นพื้นที่นำร่อง ในการสร้างความร่วมมือ ระหว่างรัฐเอกชน ในการขับเคลื่อนการพัฒนา โดยการประชุมมีขึ้นที่ห้องฟอร์จูน แกรนด์บอลลูม โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา   

ดร.มนพร เปิดเผยว่า ในฐานะเจ้าบ้าน และเป็น สส.นครพนม เขต 2  พรรคเพื่อไทย ขอเป็นตัวแทนชาว จ.นครพนม ต้อนรับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมตะวันออกเฉียงเหนือ และตัวแทนสภาอุตฯทุกจังหวัด เข้าสู่พื้นที่เมืองแห่งความสุข ตามสโลแกนที่ว่านอนนครพนม 1 คืน อายุยืนอีก 1 ปี และอยากให้ทุกคนได้กลับมาเยือนนครพนมอีก

ทั้งนี้ ถึงแม้ จ.นครพนม จะเป็นเมืองรอง แต่เชื่อมั่นว่าเป็นจังหวัดที่กำลังเจริญเติบโต ด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สิ่งสำคัญจะต้องได้รับการขับเคลื่อนด้านยุทธศาสตร์การค้าชายแดนจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต้องได้รับการสนับสนุน การพัฒนาการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางรถไฟ และทางน้ำ อีกไม่นาน โครงการรถไฟรางคู่จะมาถึง จ.นครพนม เชื่อว่าจะทำให้เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการค้า ขนส่ง คมนาคม มากขึ้น ในส่วนของ กระทรวงคมนาคม มีความพร้อมที่จะสนับสนุน จ.นครพนม เป็นเมืองอันดับหนึ่งของอีสาน ในการพัฒนาคมนาคม ขนส่ง การค้า การท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ล่าสุดได้นำร่องแก้ปัญหาเชิงรุก เกี่ยวกับพื้นที่รองรับการคมนาคมขนส่งสินค้า ในพื้นที่ด่านชายแดน สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม - คำม่วน ที่มีปัญหาเส้นทางชำรุด และปัญหาความรับผิดชอบในการดูแลพื้นที่ โดยประสานกับทางจังหวัดนครพนม ดำเนินการถ่ายโอนพื้นที่จากเดิมสำนักงานจังหวัดนครพนมรับผิดชอบ ปัจจุบันเกิดปัญหาชำรุด จึงได้ถ่ายโอนพื้นที่ถนนชำรุดไปอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของแขวงการทาง เพื่อจัดสรรงบประมาณมาดูแลพัฒนาให้เร็วที่สุด

“นอกจากนี้ยังได้เสนอโครงการ ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงเส้นทาง เพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างทุกสาย ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงอุบัติเหตุ รวมถึงแก้ปัญหาน้ำท่วมขังเส้นทางคมนาคม ให้มีความปลอดภัย ในการสัญจร ควบคู่กับการพัฒนากระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ให้เกิดความปลอดภัยควบคู่ไปด้วย มั่นใจว่าในอนาคต จ.นครพนม จะต้องเป็นหนึ่งในเรื่องคมนาคมขนส่ง ค้าชายแดน รวมถึงเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ปลอดภัยของอีสานฯ” รมช.คมนาคม กล่าว

-005