นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการพบปะกับ H.E. Loke Siew Fook รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประเทศมาเลเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อหารือความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม และการยกระดับการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งระหว่างไทย-มาเลเซีย ให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือด้วย
โดยการเยือนไทยของฝ่ายมาเลเซียในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนธันวาคม 2567 สะท้อนเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ของทั้งสองฝ่ายในการกระชับความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือทวิภาคี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวและการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้มีการหารือถึงประเด็นสำคัญด้านการขนส่งทางถนนและทางราง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยง การอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน และการขนส่งสินค้า ตลอดจนสนับสนุนการบูรณาการร่วมกันในระดับภูมิภาค
สำหรับการขนส่งทางถนน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงการเร่งรัดการพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย - มาเลเซีย 2 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย (Memorandum of Understanding on Cross Border Transport of Goods between Thailand and Malaysia: CBTG) และ 2.ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย (Memorandum of Understanding on Cross Border Transport of Passengers between Thailand and Malaysia: CBTP) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาการขนส่งสินค้า และอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศ ตลอดจนเพื่อให้เกิดสิทธิในการขนส่งทางถนนที่เท่าเทียมกัน โดยตั้งเป้าหมายให้การเจรจาได้ข้อยุติและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจทั้ง 2 ฉบับ ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 พร้อมกันนี้ยังสนับสนุนแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูลระบบใบอนุญาตขับรถแบบดิจิทัลกับใบขับขี่ระหว่างประเทศ ผ่านกลไกอาเซียนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านการขนส่งทางราง ได้หารือการฟื้นฟูการเดินรถไฟเส้นทางสุไหงโก-ลก - รันเตาปันยัง โดยที่ประชุมมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยและการรถไฟมาเลเซีย (Keretapi Tanah Melayu: KTMB) ใช้กลไก KTMB - SRT Joint Conference เพื่อร่วมกันพิจารณากระบวนการและกำหนดแผนการกลับมาเปิดให้บริการที่ชัดเจน เพื่อฟื้นฟูโครงข่ายการคมนาคมข้ามพรมแดนในอดีต และสอดคล้องกับการพัฒนาระบบรางชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซีย (Eastern Corridor Rail Link: ECRL) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ของปี 2569 นอกจากนี้ ได้หารือในประเด็นการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการผลักดันการทำพิธีการศุลกากรเพียงครั้งเดียว ณ จุดขาเข้า (Single Window Inspection: SSI) ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการตรวจสินค้าอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ตนด้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมด้านพิธีการศุลกากรของฝ่ายมาเลเซีย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายยังแสดงความยินดีต่อการกลับมาให้บริการเดินรถไฟในเส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - ปาดังเบซาร์ - บัตเตอร์เวิร์ธ รัฐปีนัง ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมคาดว่าจะเปิดให้บริการเที่ยวแรก ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 ถือเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศอีกด้วย
ในส่วนของฝ่ายมาเลเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย ได้รายงานความคืบหน้าโครงการ Perlis Inland Port (PIP) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากด่านปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา ประมาณ 5 กิโลเมตร ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการระยะที่ 1 ภายในปี 2568 เพื่อบรรเทาความแออัดของการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์จาก Padang Besar Container Terminal (PBCT) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การหารือร่วมกันในครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมของทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และกำหนดแนวทางความร่วมมือในอนาคต เชื่อมั่นว่าการหารือจะนำไปสู่ความก้าวหน้าในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างไทย - มาเลเซีย และในระดับภูมิภาคได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองประเทศ” นายสุริยะ กล่าว
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี