นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.) โกลเบล็ก หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากการที่สภาคองเกรสสหรัฐผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ การผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 แต่อย่างไรก็ตามยังมีความผันผวนจากหุ้น DELTA คาดกรอบดัชนีที่ 1,440-1,500 จุด
ขณะเดียวกันนโยบายฟรีวีซ่าที่เริ่มมีการใช้ในช่วงเริ่มต้น “สัปดาห์ทอง” (Golden Week) ของจีนซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติจีน และสัปดาห์ทองในปีนี้ยังตรงกับเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทำให้จีนมีวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน-8 ตุลาคมและยังเป็นวันหยุดยาวครั้งแรกที่ชาวจีนสามารถเดินทางได้อย่างอิสระหลังผ่านพ้นช่วงบังคับใช้มาตรการจำกัดการระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนการลงทุนทางตรง (FDI) ในระยะยาวในการผลิตรถ EV ในประเทศไทยจากการที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคของ China Automotive Technology and Research Center (CATARC) ซึ่งเป็นหน่วยความเข้มข้นทางเทคนิคของอุตสาหกรรมยานยนต์ภายใต้คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ของรัฐของสภาแห่งรัฐของจีน
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นไทย อาทิ ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยสำหรับปีนี้เหลือ 3.4% จากเดิม 3.9% รวมทั้งลดคาดการณ์ GDP ปี 2567 เหลือ 3.5% จากเดิม 3.6% จากความกังวลเรื่องหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงประมาณ 80% ของ GDP ซึ่งสูงที่สุดในภูมิภาค และการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีซึ่งเป็นตัวแทนอัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง กดดันการประเมินมูลค่าตลาดหุ้นไทย โดยช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 157,170.50 ล้านบาทสวนทางกับนักลงทุนประเภทอื่นที่ซื้อสุทธิ
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นสถาบันการเงิน หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสนับสนุนหุ้นกลุ่มธนาคารที่จะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้แก่ BBL, KBANK, SCB, KTB และ TISCO รวมทั้งหุ้นที่ได้รับประโยชน์นโยบายฟรีวีซ่า ได้แก่ AOT, CENTEL, ERW, SPA, RP และ AU
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้แนะนำติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยอดจ้างงานภาคเอกชน ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงานหากปรับตัวดีขึ้นจะสนับสนุนให้เฟดคงดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป
ฝ่ายวิจัยประเมินราคาทองคำในสัปดาห์นี้เคลื่อนไหว Sideway Down ในกรอบ 1,850-1,875 $/Oz เนื่องจากยังถูกกดดันจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดในรอบ 16 ปีที่ 4.59% อีกทั้งความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายนเป็นปัจจัยกดดันต่อการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในระยะกลาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี