นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ได้สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจ และความคิดเห็นต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่27 กันยายน-3 ตุลาคม 2566 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,280 ตัวอย่างทั่วประเทศ โดยคาดว่าปี 2566 นี้จะคึกคัก เพราะบรรยากาศของการกลับมากินเจและเศรษฐกิจฟื้นตัวมีผลต่อการใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นปี 2566 นี้อยู่ที่ 4,587 บาท สูงสุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่มีการสำรวจในปี 2551 ทำให้คาดการณ์ว่าเงินจะสะพัดในช่วงกินเจอยู่ที่ 44,558 ล้านบาท ขยายตัว5.5% แต่ก็ยังไม่เท่าก่อนที่จะเกิดโควิด
“การกลับมาคึกคักในช่วงกินเจปีนี้ เพราะคนมองเศรษฐกิจดีขึ้น การท่องเที่ยวฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จึงมีผลต่อการจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงเทศกาล ซึ่งคาดว่าสูงขึ้น 30%” นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับผลการสำรวจถึงทัศนะต่อนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท พบว่า 76.4% คาดว่าจะใช้เงินดิจิทัล ส่วนผู้ที่มีรายได้เดือนละ 40,001 บาทขึ้นไป จำนวน 15.6% ระบุว่าจะไม่ใช้ โดยในส่วนของผู้ที่จะใช้เงินดิจิทัลนั้นอยากใช้ซื้อสินค้าในครัวเรือนมากที่สุด 24.5% รองลงมา คือ ใช้ซื้ออาหาร 21.0%
ในขณะเดียวกันเมื่อถามว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการดิจิทัลหรือไม่ มีผู้ตอบแบบสอบถามว่าไม่แน่ใจมากที่สุด 38.4% เนื่องจากมีความกังวลเรื่องภาษี ยังไม่ทราบหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการที่ชัดเจน และคิดว่าจะได้รับเงินช้ากว่าการขายปกติ และ 33.8% ตอบว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการเพราะจะทำให้มียอดขายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม 48.3% เชื่อว่าเงินดิจิทัลจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้มาก และ 35.6%เชื่อว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ปานกลาง
ส่วนผลสำรวจถึงความกังวลต่อเหตุยิงกลางห้างสรรพสินค้า พบว่า 67.8% มีความกังวลปานกลาง 18.9% กังวลน้อย และ 11.8% กังวลมาก นอกจากนี้จากผลการสำรวจยังพบว่าการก่อเหตุยิงกลางห้างสรรพสินค้าจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยปานกลาง 45.7% และ 35.1% แสดงความเห็นว่าจะส่งผลกระทบมาก
“ขณะที่แนวคิดที่จะมีการขยายเวลาการปิดสถานบันเทิงในเขตโซนนิ่งนั้น มองว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจมากกว่าการปิดตามเวลา เพราะจะทำให้การท่องเที่ยวคึกคัก เกิดการจ้างงาน ส่วนข้อเสียมีเพียงเรื่องของอาชญากรรม แต่เจ้าหน้าที่คงจะป้องกันได้ ซึ่งยุคสมัยปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว”นายธนวรรธน์ กล่าว
นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลการสำรวจพบว่าคนจะเริ่มกินเจตั้งแต่วันที่ 14-15 ตุลาคม 2566 โดยกลุ่มตัวอย่าง 39.4% กินเจ เพราะตั้งใจทำบุญ เพื่อสุขภาพ ลดการกินเนื้อสัตว์ และ 60.6% ไม่กินเจเพราะอาหารแพง ไม่ตั้งใจจะกิน เศรษฐกิจไม่ดี
ส่วนพฤติกรรมการกินเจที่ผ่านมาและแนวโน้มในอนาคต ส่วนใหญ่ 82.2% ที่เคยกินก็ยังกินต่อเนื่อง ส่วน 17.8% ไม่เคย ปี 2566 นี้อาจจะไม่กินแต่บางกลุ่มก็บอกว่าจะลองกินในปี 2566 นี้ และการกินเจปี 2566 นี้ก็พบว่า 61.4% จะกินตลอดเทศกาล จะมีเพียง 38.6% ที่จะกินเป็นบางมื้อ ช่องทางที่จะเลือกซื้อส่วนใหญ่ 88.8% ไปซื้อด้วยตัวเอง และ 11.2% ไม่ได้ไปซื้อด้วยตัวเอง โดยซื้อผ่านเดลิเวอรี่ ออนไลน์
นอกจากนี้วัตถุดิบและราคาอาหารเจปี 2566 นี้คนส่วนใหญ่คิดว่า 57.1% แพงขึ้น มีเพียง 0.7%ราคาลดลง และ 42.2% คิดว่าเท่าเดิมการไปทำบุญเฉลี่ยต่อคนปี 2566 นี้อยู่ที่1,504 บาทต่อคน และมูลค่าการเดินทางไปทำบุญเฉลี่ย 3,589 บาทต่อคน ส่วนมูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลอยู่ที่ 4,587 บาท ทำให้คาดการณ์ว่าเงินจะสะพัดในช่วงกินเจ 44,558 ล้านบาท ขยายตัว 5.5%
ในขณะที่ผลสำรวจทัศนะของผู้ประกอบการในช่วงกินเจ จำนวน 650 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า 49% มีร้านอาหารถุงที่ขายอาหารเจ ส่วนอาหารเจก็จะกระจายไปในส่วนของร้านขายผัก ร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต เครื่องสำหรับไหว้เจ้า รูปแบบที่ชำระเงิน 72% ใช้เงินสด 25.8% ใช้วิธีการโอน มีเพียง 1% ใช้บัตรเครดิต
ส่วนรูปแบบที่ซื้อของลูกค้า 80.8% ใช้บริการดีลิเวอรี่ มีเพียง 19.2% ไปซื้อเอง และผู้ประกอบการส่วนใหญ่คิดว่าการใช้จ่ายช่วงกินเจจะเพิ่มขึ้น 30.7% เพราะเศรษฐกิจดีขึ้น ราคาสินค้าแพงขึ้น มาตรการกระตุ้นของภาครัฐ และ 25% คิดว่าใช้จ่ายลดลง เพราะลดค่าใช้จ่าย เศรษฐกิจแย่ มีหนี้สินเพิ่ม ส่วนจำนวนชิ้นที่ซื้อ 49% ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบปีที่ผ่านมา 30.3% เพิ่มขึ้น และ 20.75ลดลง ขณะที่ราคาสินค้าช่วงกินเจ 72% คิดว่าแพงขึ้น มีเพียง 1.7% คิดว่าถูกลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี