นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทุเลาเบาบางลง สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นตามลำดับ ภาคการท่องเที่ยวและภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตชัดเจน ผู้บริโภคดำเนินชีวิตและกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการจับจ่ายใช้สอยกันตามปกติ รวมทั้ง เริ่มมองหาและขยายที่อยู่อาศัย ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากกรมที่ดินพบว่า อสังหาริมทรัพย์อาคารชุดช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มีการโอนขายแล้วกว่า 53,000 ราย ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า“ธุรกิจนิติบุคคลอาคารชุดและนิติบุคคลสำนักงาน”มีแนวโน้มการจัดตั้งเพิ่มสูงขึ้นเพื่อรับช่วงดูแลและบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรรต่อจากบริษัทผู้พัฒนาโครงการหรือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

จากสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจนิติบุคคลอาคารชุดและนิติบุคคลสำนักงาน 3 ปี ที่ผ่านมา พบว่า ปี 2563 จดทะเบียนจัดตั้ง 137 ราย ทุนจดทะเบียน 282.57 ล้านบาท ปี 2564 จัดตั้ง 150 ราย (เพิ่มขึ้น 13 ราย หรือ 9.49%) ทุน 334.50 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 51.93 ล้านบาท หรือ 18.38%) ปี 2565 จัดตั้ง 300 ราย (เพิ่มขึ้น 150 ราย หรือ 100%) ปี 2566 (มกราคม-กันยายน) 553 ราย (เพิ่มขึ้น 345 รายหรือ 165.87% (มกราคม-กันยายน 2565 จัดตั้ง 208 ราย) ทุน 1,790.48 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1,183.62 ล้านบาท หรือ 195.04% (มกราคม-กันยายน 2565 ทุน 606.86 ล้านบาท)

พิจารณาจากรายได้รวมและผลกำไรของธุรกิจ พบว่า ปี 2563 ธุรกิจมีรายได้ 17,197.97 ล้านบาท ผลกำไร 1,120.16 ล้านบาท ปี 2564 รายได้ 15,375.52 ล้านบาท (ลดลง 1,822.45 ล้านบาท หรือ 10.60%) ผลกำไร 35.82 ล้านบาท (ลดลง 1,084.34 ล้านบาท หรือ 96.81%)ปี 2565 รายได้ 22,140.62 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น6,765.10 ล้านบาท หรือ 44.00%) ผลกำไร 4,751.38 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4,715.56 ล้านบาทหรือ 13,164.60%)

ธุรกิจนิติบุคคลอาคารชุดและนิติบุคคลสำนักงานที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 มี 3,818 ราย คิดเป็น 0.44% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ (885,521 ราย) มีมูลค่าทุน 37,434.77 ล้านบาท คิดเป็น 0.17% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย (21.50 ล้านล้านบาท)