ศาลอาญาคดีทุจริตฯ รับคำฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้องคดี‘ไตรรัตน์’ฟ้อง กสทช. ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ปมซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก-เปลี่ยนรักษาการแทนเลขาฯ กสทช. ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 7 ก.พ.ปีหน้า
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 66 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ย่านตลิ่งชัน ศาลอาญาคดีทุจริตฯนัดฟังคำสั่ง คดีอาญาหมายเลขดำ ที่อท 155/2566 ที่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการรองเลขาธิการ กสทช.เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องพล.อ.ท. ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต ,รอง ศ. ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย ,รองศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ และผู้ช่วยศ.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริกับพวกรวม 5 คนเป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 172
กรณีที่นายไตรรัตน์ โจทก์ฟ้องสรุปว่า พวกจำเลยได้ร่วมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายและและดำเนินการให้มีการเปลี่ยนรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. แทนโจทก์ โดยมิชอบ โจทก์ซึ่งเป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการกสทช. ได้รับความเสียหาย จนต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวน ถูกเสนอให้ต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ก่อให้เกิดความสับสน ความแตกแยกในหมู่พนักงานเกิดความกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง เพราะมีข่าวออกเผยแพร่ทันทีภายหลังการประชุม กสทช. เสร็จสิ้น รวมถึงหมดโอกาสในการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานจากการ
กระทำของจำเลยทั้งห้าทำให้โจทก็ได้รับผลกระทบต่อการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ซึ่งจะมีขึ้นในภายภาคหน้าต่อไปด้วย โดยจำเลยที่ 5 เป็นรองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ และเป็นผู้รักษาการแทนโจทก์ แต่จำเลยที่ 5 โดยเจตนาทุจริตกลับจัดทำบันทึกข้อความ ด่วนที่สุด (ลับ) ส่วนงานเลขานุการ กสทช. สายกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ แต่งตั้งตนเองเป็นพนักงานผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. แทนโจทก์ โดยมีเจตนาพิเศษเพื่อให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. และตนเองจะได้ดำรงตำแหน่งแทน จึงเป็นการจงใจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่1-4 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย เป็นการร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือตำแหน่งหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 172 อีกทั้งภายหลังจากที่จำเลยที่ 1-4 ซุ่งเป็นบอร์ด กสทช.ได้ร่วมกันลงมติตามระเบียบวาระ 5.22 ในการประชุม กสทช. และจำเลยที่ 5 ได้จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยโจทก์แล้วปรากฏว่าสื่อมวลชนได้มีการนำเสนอและเผยแพร่ข่าวที่ กสทช. มีมติปลดโจทก์ และให้โจทก์หยุดปฏิบัติหน้าที่ ผ่านทางสื่อหลายสำนัก หลายช่องทางด้วยกันทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากการนำเสนอข่าวดังกล่าว ชื่อเสียง รวมถึงเสียโอกาสในหน้าที่การงาน ตนเอง
โดยวันนี้ทนายโจทก์เดินทางมาฟังคำสั่ง
ศาลอาญาคดีทุจริตฯตรวจคำฟ้องแล้ว เห็นว่า คำฟ้องเป็นไปตามพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา15เห็นควรรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้องสำเนาฟ้องให้จำเลยทั้งห้าพร้อมแนบหนังสือแจ้งสิทธิจำเลยตามกฎหมายในการต่อสู้คดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ศกหน้า เวลา 09.30 น.ให้โจทก์นำส่งหมายนัดไต่สวนมูลฟ้องพร้อมแนบสำเนาคำฟ้องและเอกสารแจ้งสิทธิจำเลยทั้งห้าตามกฎหมายในการต่อสู้คดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ทราบภายใน 5 วัน นับแต่วันนี้
อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นควรไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้เฉพาะนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล โจทก์ พ.ต.อ.ประเวศ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในการประชุมครั้งที่ 13/2566 น.ส.อรดา เทพยายน ผู้อำนวยการสำนัก สำนักประธานกรรมการและการประชุมสำนักงาน กสทช.) เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุม และนายสุทัศน์ ทองสถิต ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในการเสนอวาระการประชุมครั้งที่ 13 ในประเด็นและพยานหลักฐานตามที่ศาลเห็นสมควรเท่านั้นโดยให้ฝ่ายโจทก์นำพยานเข้าเบิกความตามกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี