ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากรมฯได้ติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ทั้งนมพาสเจอร์ไรซ์ นมยูเอชที และนมสเตอริไรซ์ มีการยื่นขอปรับขึ้นราคามายังกรมฯแล้ว 5-6 ราย จากที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นมาแล้ว 2 ราย โดยขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างการพิจารณาเอกสาร หลักฐาน และวิเคราะห์ต้นทุน รวมถึงราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะใช้เวลาในการพิจารณา 15 วัน หลังจากยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ ครบแล้ว

โดยกรมฯยืนยันว่าพิจารณาปรับขึ้นจากเหตุต้นทุนน้ำนมดิบที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ไม่รวมเรื่องของต้นทุนอื่นตามที่เอกชนเคยขอมา เช่น ต้นทุนค่าไฟฟ้า เป็นต้น และขอย้ำว่าราคาขายปลีกผลิตภัณฑ์นมแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ จะปรับขึ้นไม่เท่ากัน เพราะแต่ละชนิดใช้น้ำนมดิบไม่เท่ากัน รวมถึงหากเป็นสต๊อกการผลิตเก่าที่เป็นต้นทุนเดิม ก็จะต้องขายตามราคาเดิม

สำหรับสินค้าอื่นๆ นั้น จากการติดตามสถานการณ์ตามห้างค้าส่ง ค้าปลีกพบว่ามีสินค้าทุกประเภทเพียงพอ และมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาหารสด อาหารสำเร็จรูป วัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร ตลอดจนสินค้าอุปโภค-บริโภคต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย

“ช่วงนี้มีสินค้าบางชนิดปรับขึ้นราคา เช่น เนื้อหมู ขึ้น 19 สตางค์ จากเดิม133.44 บาท เป็น 133.63 บาท/กิโลกรัม (กก.) เนื้ออกไก่ ขึ้น 18 สตางค์ จากเดิม74.88 บาท เป็น 75.06 บาท/กก. ส่วนราคาไข่ไก่คละ เฉลี่ยอยู่ที่ฟองละ 3.60 บาทอย่างไรก็ตาม ช่วงตรุษจีนคาดว่าราคาเนื้อหมูเตรียมปรับขึ้นบางรายการ โดยเฉพาะหมูสามชั้น เนื่องจากมีปริมาณความต้องการสูงขึ้น ทั้งนี้ได้กำชับให้ผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีก ช่วยตรึงราคาและจัดโปรโมชั่นช่วยประชาชน” ร.ต.จักรา กล่าว