นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลลาดพร้าว หรือ LPH เปิดเผยว่าในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยภาพรวมปัจจุบันคนไข้ทั่วไปกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น สัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มผู้ป่วยจากประกันสังคม (สปส.)ราว 45% เเละกลุ่มผู้ป่วยเงินสดราว 55% ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติทยอยกลับมาใช้บริการมากขึ้น ส่วนใหญ่จะมาจากตะวันออกกลาง รวมถึงกัมพูชา โดยประเมินรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตราว 50% จากปีที่ผ่านมา

ขณะที่ฐานผู้ป่วยประกันตนในปี 2567 ล่าสุดอยู่ที่ 180,000 ราย จากโควตา 200,000 กว่าราย แต่ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะเป็นช่วงขอเปลี่ยนสถานพยาบาลของประกันสังคมรอบใหม่ คาดว่าจะได้ผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มแต่ไม่น่าจะเกิน 200,000 ราย เนื่องจากธุรกิจย่านลาดพร้าวขยายตัวไม่มาก

สำหรับความคืบหน้าแผนการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ที่ถนนลาดพร้าว รพ.จักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร มูลค่าการลงทุนรวม 1,300 ล้านบาท คาดว่าภายในไตรมาส 2/2567 จะเริ่มการก่อสร้างได้ และปลายปี 2568 คาดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ

นอกจากนี้ได้ตั้งบริษัทลูกเป็นการแตกไลน์ธุรกิจ และมีการลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงการหาพันธมิตร เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ล่าสุดเตรียมลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยในปีนี้ เตรียมก่อสร้างคอนโดมิเนียม เกรดพรีเมี่ยม ย่านลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท จำนวน 70 ห้อง นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายการลงทุน โรงพยาบาลตรวจสุขภาพเพิ่มจากเดิมเปิด รพ.ตรวจสุขภาพ จ.พระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มอีก 1 แห่ง ที่จ.นครราชสีมา เพื่อขยายฐานลูกค้าโรงงานขนาดกลางและเล็กคาดรายได้ในส่วนตรวจสุขภาพนอกสถานที่จะเติบโตกว่า 50%

ผลประกอบการงวดปี 2566 (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2566) มีรายได้ 2,261.64 ล้านบาท ลดลง 7.20% เนื่องจากสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ อยู่ที่ 63.55 ล้านบาท ลดลง 80.32% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท เป็นเงินรวม 108 ล้านบาท