‘รฟม.’จับมือ‘สทร.’
หนุนวิจัยและพัฒนา
เทคโนโลยีระบบราง
เพิ่มศักยภาพขนส่ง
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. และสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและสร้างอุตสาหกรรมระดับประเทศ
โดย รฟม. ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและขยายโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพของประเทศ และ สทร. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางในอนาคต ต้องการพัฒนา ขับเคลื่อน และสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับระบบรางที่เป็นประโยชน์ สอดคล้องกับทิศทางการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมและการขนส่งทางรางของประเทศอย่างมีคุณภาพ
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2566-2570 รฟม. ได้กำหนดภารกิจในการพัฒนาองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เพื่อต่อยอดเป็นนวัตกรรมระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของประเทศ ที่สามารถนำมาใช้สนับสนุนการดำเนินงานได้จริง ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ ดังนั้นความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ รฟม. ให้บรรลุเป้าที่ตั้งไว้ ตลอดจนเป็นการผลักดันให้ รฟม. ก้าวไปสู่องค์กรแห่งนวัตกรรม ที่สามารถช่วยยกระดับเมืองและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนต่อไป
นางสาวกานต์รวี ทองพูล รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) กล่าวว่า สทร. เชื่อว่าการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้ต้นทุนการเดินทางต่ำลง มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ ตลอดจนเป็นปัจจัยที่สามารถส่งเสริมการดึงดูดและกระตุ้นการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี