นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ ไปรษณีย์ไทย ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 22,802 ล้านบาท เติบโตกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้รวม 20,934.47 ล้านบาท เติบโต 7.40% โดยมีกำไรสุทธิ 78.54 ล้านบาท และคาดว่าปี 2567 จะมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท
โดยในปี 2566 ไปรษณีย์ไทย มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มงานต่างๆ ได้แก่ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ 45.56% กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 33.85% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.43% กลุ่มบริการค้าปลีกและการเงิน 4.90% กลุ่มธุรกิจอื่นๆ 0.96% และรายได้อื่นๆ 1.30% และในปี 2567 นี้ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ 46.12% กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 32.48% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.98% กลุ่มบริการค้าปลีกและการเงิน 5.10% กลุ่มธุรกิจอื่นๆ 0.90% และรายได้อื่นๆ 1.42%
ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดขนส่งในปี 2566 ที่ผ่านมา ถือว่ายังมีการเติบโตตามอานิสงส์ของการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และจากการให้บริการกับตลาดต่างๆ รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องนั้น มาจากการให้บริการที่ครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม มีจุดให้บริการที่สะดวกและง่ายต่อการเข้าถึงของผู้ใช้บริการ พัฒนาประสบการณ์ในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นคุณภาพตลอดกระบวนการให้บริการ
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย เตรียมวางงบลงทุนในปี 2667 ไว้กว่า 1,000 ล้านบาท ในการปรับเปลี่ยนรถขนส่งให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (Electric Vehicle) ภายในปี 2567 นี้ จำนวน 250 ล้านบาท และลงทุนด้านเทคโนโลยี การบริหารระวางการขนส่ง ลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำ ติดตามได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นบริการระหว่างประเทศ ด้วยการขนส่งสินค้าทางราง ทางอากาศ หรือ Cargo Mode บริการ Courier Lite และเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการให้กับลูกค้า ให้สามารถใช้ช่องการชำระเงินค่าสินค้า-บริการ ผ่านแอปพลิเคชั่น We Chat และ Ali Pay ที่จะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 2567 นี้
ในขณะเดียวกัน ยังวางโรดแมปใน 3 ปี โดยไปรษณีย์ไทยตั้งเป้าเป็น Trusted SustainableASEAN Brand ดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนและเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือแห่งอาเซียน โดยปี 2567 ได้ปรับวิสัยทัศน์เป็น ส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ Delivering Sustainable Growth through Postal Network
โดยพร้อมกันนี้ได้วาง 10 ความโดดเด่นและการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่ การมุ่งเน้นคุณภาพ หลีกเลี่ยงสงครามราคา การปรับภาพจำของแนวทางการดำเนินงานแบบรัฐวิสาหกิจไปสู่เอกชน พร้อมพัฒนา LogisticsCompany ให้ก้าวสู่ Information LogisticsCompany ที่นำข้อมูลมาปรับปรุงต่อยอดบริการให้ตรงใจ รวมทั้งบูรณาการข้อมูลที่มีอยู่ให้ทุกภาคส่วนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน การยกระดับสัมพันธภาพที่ดีให้เป็นความเชื่อมั่น การขยายฟังก์ชั่นการทำงานของบุรุษไปรษณีย์ หรือ Postmanสู่ Post-Gentleman as a service ที่พร้อมให้บริการในหลากหลายด้าน และปรับสนามการแข่งขันให้เป็นความร่วมมือเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดขนส่งโลจิสติกส์ ด้วยเครือข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมกว่า 50,000 แห่ง
นายดนันท์กล่าวว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้จะเกิดขึ้นได้จากทรัพยากรที่มีศักยภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ ได้แก่ เครือข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมแล้วกว่า 30,000 แห่ง ซึ่งล่าสุดได้ร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดจุดให้บริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า” ตั้งเป้า 20,000 แห่ง ภายในปี 2567 ด้วยบุรุษไปรษณีย์ที่มีอยู่กว่า 25,000 คน ที่สามารถให้บริการได้ตลอด 365 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี