‘บางกอกแอร์เวย์ส’ติดปีก!วางเป้าปี67 ผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน รายได้แตะ 1.8 หมื่นล้านบาท

‘บางกอกแอร์เวย์ส’ติดปีก!วางเป้าปี67 ผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน รายได้แตะ 1.8 หมื่นล้านบาท

วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567, 17.41 น.

‘บางกอกแอร์เวย์ส’กางแผนติดปีกศักยภาพธุรกิจการบิน หนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทยพลิกฟื้น เดินหน้าเสริมทัพพันธมิตรทางธุรกิจ รับอุปสงค์การท่องเที่ยว ตั้งเป้ารายได้ผู้โดยสาร 17,800 ล้านบาท ยอดผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2567

29 มีนาคม 2567 นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินการของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส คาดว่าการเติบโตในปี 2567 จะเติบโต 2 ดิจิต มีรายได้ผู้โดยสาร (Passenger Revenue) 17,800 ล้านบาท มีจำนวนผู้โดยสาย 4.5 ล้านราย คาดการณ์จำนวนเที่ยวบิน 48,000 เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (%Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 85% ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินประมาณ 3,900 บาทต่อที่นั่ง  และมีแนวโน้มการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในปี 2567 พบว่าเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ประมาณ 14% โดยมีสัดส่วนตามกลุ่มเส้นทางได้แก่ กลุ่มเส้นทางสมุย 63% กลุ่มเส้นทางภายในประเทศ 28% กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV 8% และเส้นทางต่างประเทศ 1%


อย่างไรก็ตามปัจจุบันบางกอกแอร์เวย์สให้บริการเที่ยวบินสู่ 20 จุดหมายปลายทาง ประกอบด้วยภายในประเทศ 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) เกาะสมุย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ตราด ลำปาง แม่ฮ่องสอน สุโขทัย หาดใหญ่ อู่ตะเภา และจุดหมายปลายทางต่างประเทศ 8 แห่ง  ได้แก่ มัลดีฟส์ สิงคโปร์ เสียมเรียบ พนมเปญ หลวงพระบาง ฮ่องกง เฉิงตู ฉงชิ่ง โดยเส้นทางบิน “สมุย – ฉงชิ่ง” และ “สมุย – เฉิงตู” เป็นเส้นทางบินที่กลับมาเปิดให้บริการล่าสุด ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เฉลี่ย 2 – 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน

ทั้งนี้ บางกอกแอร์เวย์สยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เครือข่ายความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรสายการบินโดยปัจจุบันมีสายการบินพันธมิตร (Codeshare Partners) รวมทั้งสิ้นจำนวน 28 สายการบิน และมีสายการบินข้อตกลงร่วม (Interline Partners) กว่า 70 สายการบิน  และในปีนี้ บริษัทมีแผนข้อตกลงความร่วมมือกับสายการบินเพิ่มเติมประมาณ 2 สายการบิน เพื่อส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเส้นทางบินบริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้นรวม 25 ลำในฝูงบิน

ขณะเดียวกันการลงทุนของบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์ เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ  UTA  โดยปัจจุบันบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 45% ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจการพัฒนาและบริหารสนามบินในโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่เป็นโครงการหลักสำคัญของ อีอีซี ซึ่งขณะนี้มีการดีเลย์ และทำให้บริษัท มีค่าใช้จ่ายแล้ว 4,000 ล้านบาท

“โครงการสนามบินอู่ตะเภาเราพยายามพัฒนาเตรียมตัว เตรียมการตั้งแต่เซ็นต์สัญญาคุยกับรัฐให้เปิดพื้นที่เข้าไปเตรียมพื้นที่ก่อน จะได้ช่วยประหยัดเวลา อย่างน้อยให้รัฐส่งมอบพื้นที่ให้เรา เราไม่ได้หยุดนิ่งเตรียมความพร้อมในทุกๆเรื่องเราประมูลงานนี้มาตั้ง 5 ปีที่แล้ว ส่วนเรื่องการเปิดคาซิโน เรื่องนี้ต้องใช้เวลาและเงื่อนไขอีกพอสมควรถ้ามองว่าเป็นธุรกิจ การควบคุมดูแลได้มั้ย อยู่ที่ว่าจะมีการกำกับดูแลที่ดี ใครที่มีโอกาสก็น่าสนใจ ถามว่ามีความกังวัลมั้ยหากรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน จะไม่เกิดมองว่ารัฐจะต้องหาวิธีว่าจะไปต่ออย่างไร  คิดว่าอย่างไรก็ตามรัฐต้องหาวิธี รอความชัดเจน” นายพุฒิพงศ์ กล่าว

นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินการด้านการเงินของปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ต่อหน่วยจากการผลิตด้านผู้โดยสาร (Revenue per ASK: RASK) ที่ 5.41 บาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ 5.14 บาท จึงมีสัดส่วนกำไร เท่ากับ 0.27 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ มีส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายหลักได้แก่ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าซ่อมบำรุงเครื่องบิน เงินเดือนพนักงานและผลประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงค่าบริการผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์สที่มีการให้บริการแบบฟูลเซอร์วิส ภาพรวมผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทฯ ในปี 2566 เท่ากับ 4,782 ล้านบาท และ EBITDA Margin เท่ากับ 23% ทั้งนี้  บริษัทฯมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 3,108 ล้านบาท บนงบการเงินรวม โดยสำหรับด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัท ในปี  2566 นี้ปรับลดลงที่ 2.4 เท่า

ขณะเดียวกันหนึ่งในโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของบริษัทฯ สำหรับปี 2567 นี้คือการดำเนินงานของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบินที่มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นตามจำนวนเที่ยวบินที่เข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิ ได้แก่ บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด (Bangkok Air Catering: BAC) โดยจากปี 2566 มีจำนวนลูกค้าสายการบิน 23 ราย มีรายได้ในระดับ 81 % ของปี 2562 จากช่วงก่อนโควิด-19  และบริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (BFS Ground) มีจำนวนลูกค้าสายการบินทั้งหมด 90 ราย และมีรายได้อยู่ในระดับ 93% จากปี 2562 ในขณะที่บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์ไก้ จำกัด (BFS Cargo) มีลูกค้าสายการบิน รวม 86 สายการบิน

นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขายและรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2567 นี้บางกอกแอร์เวย์ส วางสัดส่วนของช่องทางการขาย เป็นทางเว็บไซต์ 30 % และช่องทางอื่นๆ 70 % (BSP Agent, Online Travel Agent, Call Center, Etc.) ซึ่งจะมาจากต่างประเทศ 57% โดยวางแผนขยายการขายเชิงรุกสำหรับตลาดต่างประเทศ โดยการขยาย GSA เพื่อครอบคลุมโอกาสการขายไปยังกลุ่มตลาดใหม่ อาทิ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ละตินอเมริกา และตุรกี โดยปัจจุบันมี GSA รวมทั้งสิ้น 26 สำนักงานทั่วโลก

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top