นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม กล่าวว่า หลังจากที่ ดีพร้อมได้วางแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยในปี 2567 ภายใต้นโยบาย RESHAPE THEFUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต เพื่อเป็นกรอบทิศทางการดำเนินงานที่สอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับโลก(Megatrends) ภายใต้ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและสังคมโลกยุคใหม่ ซึ่งได้เร่งเดินหน้าตามนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ผ่านการขยายเครือข่ายความร่วมมือ (DIPROM CONNECTION) โดยในปี 2567 ดีพร้อม ได้ตั้งเป้าหมาย ในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกว่า 18,400 ราย ภายใต้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท

นโยบาย RESHAPE THE FUTUREประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ที่สำคัญ คือ 1. ปรับตัวให้ก้าวทันอุตสาหกรรมยุคใหม่ (RESHAPE THE INDUSTRY) ผ่านการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DIGITAL TRANSFORMATION) ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ได้รับฟังข้อคิดเห็นและปัญหาจากสมาคมเครือข่ายและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และสนับสนุนเพื่อจัดทำแผนการส่งเสริมให้ได้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังได้หารือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เพื่อบูรณาการผลักดันอุตสาหกรรมอวกาศให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม

2. ปรับเปลี่ยนการพัฒนาเชิงพื้นที่ (RESHAPE THE AREA) ผ่านการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค (ECONOMICCORRIDOR) ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลักดันนโยบายการพัฒนาโกโก้สู่การเป็น ASEAN COCOA HUB นอกจากนี้ยังได้ปรับแนวทางการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนภายใต้แนวคิด “ชุมชนเปลี่ยน เปลี่ยนชุมชนให้ดีพร้อม” (Community Transformation) โดยร่วมมือกับ Toyota ยกระดับการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนในรูปแบบการบริหารจัดการกระบวนการผลิต หลังจากนี้ ดีพร้อมจะต่อยอดขยายความร่วมมือกับบริษัทขนาดใหญ่ทั้งของไทยและบริษัทข้ามชาติ พัฒนาธุรกิจชุมชนมากขึ้นทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต การบริหารจัดการ และช่องทางการตลาด

3. ปรับเพิ่มการเข้าถึงโอกาส (RESHAPE THE ACCESSIBILITY) ผ่านการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน (FINANCIAL INCLUSION) โดยพัฒนากลไกการให้สินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อกลุ่ม SMEs ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ SME ผ่านทางโครงการ “ติดปีกเอสเอ็มอี หลักทรัพย์ไม่มีดีพร้อมค้ำประกันให้” โดยร่วมมือกับ 5 สถาบันการเงิน ได้แก่ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank)

“ดีพร้อม และ บสย. จะร่วมกันพิจารณาการค้ำประกันและแจ้งผลพิจารณาเบื้องต้น ภายใน 7 วันทำการ คาดว่าจะมีเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และต่อยอดการเริ่มต้นธุรกิจและสร้างโอกาสเติบโตคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาท”นายภาสกรกล่าว

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อเชื่อมโยงผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ ร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงช่องทางและโอกาสทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งพัสดุ/ผลิตภัณฑ์ การให้บริการคลังสินค้าครบวงจร ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปลายทาง