นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้วิเคราะห์ตลาดส่งออกศักยภาพใหม่ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ภาคธุรกิจได้สร้างโอกาสในการเพิ่มมูลค่าการส่งออก เนื่องจากตลาดส่งออกปัจจุบันค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ไม่กี่ประเทศ กลุ่มตลาดศักยภาพใหม่ๆ ที่ควรผลักดัน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 กลุ่มประเทศคู่ค้ามีศักยภาพการนำเข้าสูง และไทยส่งออกไปในสัดส่วนที่สูง แต่ยังน้อยกว่าศักยภาพการนำเข้าของประเทศคู่ค้า

ตลาดในกลุ่มนี้ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ (ทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป ส่วนประกอบนาฬิกา พลอย เนื้อ) สหราชอาณาจักร (รถปิกอัพรถบัสและรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายใน อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ เครื่องประดับแท้ทำด้วยทอง) เกาหลีใต้ (ยางยานพาหนะ น้ำมันถั่วเหลือง ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ข้าวโพดหวานกระป๋อง มะม่วงสด)สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (รถยนต์นั่งที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายใน เครื่องประดับแท้ทำด้วยทอง เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ อาหารปรุงแต่ง) ซาอุดีอาระเบีย(รถยนต์นั่งที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายใน รถปิกอัพฯ เครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้าง ข้าวโพดหวานกระป๋อง แปรรูปข้าวนึ่ง กุ้งแปรรูป และข้าวหอมมะลิ 100%) กาตาร์(ปลาสด แช่เย็น แช่แข็ง พลอย อาหารปรุงแต่ง อาหารสุนัขและแมว และเครื่องเทศอื่นๆ)

แนวทางการส่งเสริมคือขยายความร่วมมือและเปิดเสรีการค้าระหว่างกันมากขึ้น ตลอดจนปรับปรุงพัฒนาคุณภาพ และรักษามาตรฐานสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด รวมทั้งหาช่องทางการค้าใหม่ๆ เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้น

กลุ่มที่ 2 กลุ่มประเทศคู่ค้ามีศักยภาพการนำเข้าสูง แต่ระดับมูลค่าส่งออกของไทยไปประเทศนั้นๆ ยังอยู่ในระดับปานกลางถึงน้อย

ตลาดกลุ่มนี้ ได้แก่ นอร์เวย์(รถปิกอัพฯ โครงก่อสร้างทำด้วยเหล็ก แผงสวิตช์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสพริกและข้าวหอมมะลิ 100%) อาเซอร์ไบจาน(เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ยางยานพาหนะรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายในผลไม้แปรรูป ข้าวโพดหวานกระป๋อง ซอสพริกและสับปะรดกระป๋อง) และคาซัคสถาน (รถปิกอัพฯ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องประดับแท้ทำด้วยทอง สิ่งปรุงแต่งที่ใช้กับหน้าและบำรุงผิว โกโก้และของปรุงแต่ง และอาหารสุนัขและแมว)

แนวทางส่งเสริมคือการขยายความร่วมมือและเปิดเสรีการค้าระหว่างกันมากขึ้น และเร่งศึกษาตลาดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการค้า

กลุ่มที่ 3 ประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพการนำเข้าปานกลาง แต่ความต้องการซื้อตรงกับความต้องการขายอยู่ในระดับสูง

ตลาดกลุ่มนี้ ได้แก่ โมร็อกโก (รถยนต์นั่งประเภทยานยนต์ไฟฟ้าฯ ด้ายเส้นใยประดิษฐ์ เทปแม่เหล็กและจานแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ อาหารสุนัขและแมว อาหารปรุงแต่งและน้ำสับปะรด) เซอร์เบีย (รถปิกอัพฯ เหล็กและเหล็กกล้า ทูน่ากระป๋อง ปลาแปรรูป และสับปะรดกระป๋อง) โคลัมเบีย (เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ ไม้อัด) บาห์เรน (รถยนต์นั่งที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายใน ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า หลอดหรือท่อและอุปกรณ์ติดตั้งของหลอดหรือท่อทองแดง) ยูเครน (รถปิกอัพฯ รถยนต์นั่งที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายใน ทูน่ากระป๋อง สับปะรดกระป๋อง กุ้งแปรรูป และปลาหมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง)

แนวทางส่งเสริมคือ ศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้ไทยส่งออกไปยังตลาดกลุ่มนี้ให้ได้มากขึ้นในอนาคต