นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้แทนร่วมงานสัมมนา “ส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมจีน (เหอหนาน)-ไทย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีน ด้านการค้าการลงทุน แลกเปลี่ยนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยกับมณฑลเหอหนาน โดยมีนายซุน โซวกัง กรรมการประจำคณะกรรมการกรมการเมืองถาวร มณฑลเหอหนาน ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรองผู้ว่าการมณฑลเหอหนานเป็นประธาน
“การพบกับนายซุน โซวกัง ถือเป็นโอกาสอันดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือของไทยและจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระชับความร่วมมือกับมณฑลเหอหนาน ซึ่งเป็นมณฑลที่มีความน่าสนใจ มีความล้ำหน้าในทางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของจีน โดยประเทศจีนถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1ของประเทศไทย มีการติดต่อเป็นเวลากว่า 11 ปีภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีการประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 พ.ศ. 2564-2568 เน้นให้ความสําคัญกับการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ เสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจเป็นรายมณฑล รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม”นายบรรจงกล่าว
จีนและไทย มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค้าและการลงทุน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้พัฒนาอย่างก้าวหน้า นำมาซึ่ง “การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “นโยบายจีนเดียว”คือ การมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เคารพซึ่งกันและกันและคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงมีวิสัยทัศน์ด้านสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายบรรจงกล่าวว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงานภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2566 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2567 ของไทย โดยส่วนหนึ่งของรายงานดังกล่าวระบุถึงสถานการณ์การลงทุน โดยเฉพาะแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) สำหรับกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่เป็นบริษัทรถจากประเทศจีน ทั้งนี้หากกำลังการผลิตของโรงงานรถยนต์ไฟฟ้า สามารถผลิตได้ตามเงื่อนไขของมาตรการจะช่วยส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนไฟฟ้าที่สำคัญของโลกได้
ในส่วนนโยบาย EV 3.0 มาจนถึง EV 3.5 รัฐบาลยังมีการเดินหน้าตามแผน และมาตรการช่วยเหลือนักลงทุน และมีมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 โดยพิจารณาสิทธิประโยชน์มาตรการ EV3.5 ในอัตราภาษีและเงินอุดหนุนที่เหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสในเกิดการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้นปัจจุบันรถไฟฟ้าจากจีนสามารถทำตลาดที่ไทยได้อย่างต่อเนื่องและมีท่าทีที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เห็นได้จากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่เพิ่มขึ้นในงานมหกรรมยานยนต์ต่างๆ
ด้านการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้จัดเตรียมพื้นที่ในการกำหนดยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ปรับปรุงขั้นตอนและลดระยะเวลาในการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) บนมาตรฐานการพิจารณาที่รัดกุม และได้กำหนดแนวทางและมาตรการต่างๆ ในการส่งเสริม สนับสนุนเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้พัฒนานิคมและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในการแข่งขันกับประเทศต่างๆ อาทิ ดูแลเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำนิคมอุตสาหกรรม การจัดการระบบน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม และพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น
“กระทรวงอุตสาหกรรมขอบคุณผู้ประกอบการจากจีนที่ให้ความสำคัญกับไทย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และไทยมีความพร้อมในการรองรับการลงทุนจากต่างชาติโดยเฉพาะจากจีน ขอให้เชื่อมั่นในการเลือกไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญทั้งในแง่ของการลงทุนใหม่และการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคตด้วย” นายบรรจงกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี