วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
วิตกการค้าโลกทรุด  เทรดวอร์สหรัฐ-จีนกระทบส่งออกไทย

วิตกการค้าโลกทรุด เทรดวอร์สหรัฐ-จีนกระทบส่งออกไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : การค้าโลกทรุด จีน เทรดวอร์สหรัฐ
  •  

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่าการค้าโลกและปริมาณการส่งออกชะลอตัวชัดขึ้นปริมาณการส่งออกของโลกชะลอตัวต่อเนื่องขณะที่ภาคอุตสาหกรรมของประเทศสำคัญยังฟื้นตัวได้ช้า นอกจากนี้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มกลับมารุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการขึ้นภาษีรอบล่าสุดของสหรัฐฯต่อสินค้ากลุ่มรถยนต์ EV โซลาร์เซลล์ เซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น โดยมีกำหนดบังคับใช้ภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบเพิ่มเติมต่อการค้าโลก ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ถูกสหรัฐฯมองว่าจีนใช้เป็นฐานการผลิต

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า โดยเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1/2567 เติบโต 1.5% ขยายตัวชะลอลงจากไตรมาสก่อนจากการหดตัวของการส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐ ขณะที่ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จำกัด เนื่องจากการส่งออกฟื้นตัวได้ช้าตามการค้าโลกที่ชะลอตัว และปัญหาเอลนีโญ (ฝนแล้ง) ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ผลผลิตการเกษตรลดลง ส่วนการใช้จ่ายของครัวเรือนได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนในระดับสูง


นายผยงกล่าวว่า ที่ประชุม กกร. มีความกังวลต่อภาคการส่งออกสินค้าที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่มีแนวโน้มกลับมารุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกสินค้าของจีนไปยังสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องหาตลาดใหม่ทดแทนเพื่อส่งออกสินค้า ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมต่อการส่งออกสินค้าของไทยที่อยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ ภาคการส่งออกยังมีปัจจัยกดดันจากต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้นจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่หมุนเวียนไม่ทันเนื่องจากระยะเวลาขนส่งที่นานขึ้นซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องมีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคส่งออก และส่งเสริมสินค้าที่มีศักยภาพ ในอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดเพื่อเพิ่มมูลค่าในการส่งออกของประเทศ

“กกร. ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยทั้งปีว่ามีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ 2.2-2.7% ส่วนการส่งออกมีแนวโน้มที่จะเติบโต 0.5-1.5% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.5-1% ตามทิศทางการค้าโลกและการส่งออกที่ชะลอตัวชัดขึ้น” นายผยงกล่าว

นายผยงกล่าวว่า ที่ประชุม กกร.เห็นด้วยที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น จากการประชุม ครม. เศรษฐกิจ ทั้งมาตรการ
เพิ่มการท่องเที่ยวช่วง Low-season ที่เชื่อว่าจะช่วยกระจายรายได้ไปทั่วประเทศ รวมถึงการเสนอมาตรการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. วงเงินประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ที่เตรียมนำเสนอ ครม.นั้น จะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังการลงทุน การจ้างงาน และการบริโภคและคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประมาณ2 แสนล้านบาท

“กกร. พร้อมเข้าไปมีส่วนช่วยคัดกรองและรับรอง SMEs ที่มีศักยภาพ ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น และที่ประชุมกกร.
ได้เสนอให้ภาครัฐมีมาตรการเพิ่มเติมในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs รวมถึงมาตรการสนับสนุนให้ SMEs เข้ามาอยู่ในระบบเศรษฐกิจ เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นระยะเวลา 5-7 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัวและเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น” นายผยงกล่าว

นอกจากนี้ กกร.อยู่ระหว่างหารือกับภาครัฐเกี่ยวกับแนวทางการปรับค่าแรงขั้นต่ำให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ผลิตภาพแรงงาน (Labor Productivity) และดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ตามข้อเสนอของภาคเอกชนในประเด็นที่ได้นำเสนอรัฐบาลไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยแต่ละพื้นที่จะประสานผ่าน กกร.จังหวัดให้มีการหารือร่วมกับคณะอนุกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำรายจังหวัด (ไตรภาคี) ต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'อาเซียน-จีน\'ผนึกกำลังยกระดับอุตสาหกรรมสื่อ ลงนาม MOU เดินหน้าลงทุนภาพและเสียง 'อาเซียน-จีน'ผนึกกำลังยกระดับอุตสาหกรรมสื่อ ลงนาม MOU เดินหน้าลงทุนภาพและเสียง
  • สนค.แนะไทยเร่งหาตลาดใหม่ หลังจีนยกเลิกแบนอาหารทะเลญี่ปุ่น สนค.แนะไทยเร่งหาตลาดใหม่ หลังจีนยกเลิกแบนอาหารทะเลญี่ปุ่น
  • DITP เผย กัมพูชาแอบอ้างใช้ชื่อข้าวหอมมะลิไทยวางขายในจีน DITP เผย กัมพูชาแอบอ้างใช้ชื่อข้าวหอมมะลิไทยวางขายในจีน
  • ‘พิชัย’ เดินหน้าขยายการค้า- ลงทุน-ส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน ‘พิชัย’ เดินหน้าขยายการค้า- ลงทุน-ส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน
  • \'นภินทร\' นำทีมเยือนคุนหมิง ช่วยผู้ประกอบการขยายโอกาสการค้า 'นภินทร' นำทีมเยือนคุนหมิง ช่วยผู้ประกอบการขยายโอกาสการค้า
  • พาณิชย์เยือนคุนหมิงหารือเปิดนำเข้าผลไม้ไทยเพิ่ม พาณิชย์เยือนคุนหมิงหารือเปิดนำเข้าผลไม้ไทยเพิ่ม
  •  

Breaking News

มอง‘ภูมิใจไทย’เป็นฝ่ายค้านครั้งแรก รัฐบาลถือเป็น‘เผือกหวาน’ แค่ผลักเบาๆก็ล้มแล้ว

‘วิปวุฒิสภา’โต้ยื่นสอบซ้ำ‘อิ๊งค์’ แจงทำไม่ได้ เหตุนายกฯ-รมว.วัฒนธรรม ถือเป็นรมต.เหมือนกัน

'แม่ทัพภาค 2' ชวนคนไทย เที่ยว '3 ปราสาท' กระตุ้นเศรษฐกิจช่วยพ่อค้าแม่ค้าชายแดน

ทหารเขมรเกรี้ยวกราด! ปะทะคารมทหารไทย กัมพูชาปั่นย้ายหมุดGoogle Mapsปราสาทตาเมือนธม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved