นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังรับฟังการนำเสนอแผนงานจากกลุ่ม Young Moc ข้าราชการรุ่นใหม่จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และกลุ่มทีมพาณิชย์ที่มีทูตพาณิชย์กับพาณิชย์จังหวัด จำนวน 5 กลุ่ม โดยมี นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วม ว่า ตนได้เปิดโอกาสให้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ร่วมกันระดมสมอง นำเสนอไอเดีย เพื่อยกระดับการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ สามารถนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้ และหลังจากนี้ จะนำข้อเสนอต่างๆไปปฏิบัติให้เกิดผลต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่ม Young Regional MOC ที่เป็นข้าราชการรุ่นใหม่กระทรวงพาณิชย์ มาจากจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ ยโสธร นครสวรรค์ ขอนแก่น ภูเก็ต เลย ตราด สิงห์บุรี นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ จำนวน 10 รายได้ร่วมกันนำเสนอผลงานต่อนายภูมิธรรม ในประเด็นของฝากรักษ์โลกที่ต้องซื้อกลับเมื่อมาเที่ยวประเทศไทย ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยทางกลุ่มได้มีการรวบรวมข้อมูล คัดเลือกสินค้ารักษ์โลก SDGs ของแต่ละจังหวัด มานำเสนอในรูปแบบ 2 ภาษา กับสินค้าประเภทอาหาร ของใช้ของตกแต่ง ของที่ระลึก เครื่องดื่ม ผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง และสมุนไพร ผ่าน QR Code ลิงก์ไปที่ e-Book มีภาพสินค้า แบรนด์สินค้า ชื่อ ช่องทางจำหน่าย ราคาเริ่มต้น ให้ง่ายในการเข้าถึงสินค้า SDGs ทั่วประเทศ และนำเสนอแผนประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยสร้างรายได้ให้สินค้าของผู้ประกอบการในประเทศ

ส่วนทีมพาณิชย์ ที่ประกอบไปด้วยทูตพาณิชย์และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จำนวน 5 กลุ่ม ได้นำเสนอแผนงานที่เกิดจากการทำเวิร์กช้อป เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาให้เกษตรกรผู้ประกอบการ และหาช่องทางการค้าให้ประเทศ ประกอบด้วย

1.การบริหารจัดการลำไยส่วนเกินในช่วงล้นตลาดเพื่อความยั่งยืน โดยได้เสนอแผนการบริหารจัดการผลผลิตในช่วงที่ออกสู่ตลาดอย่างครบวงจร ทำสินค้าที่มีคุณภาพ กระตุ้นการบริโภค เพิ่มการรับรู้และใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA และขยายตลาดส่งออกไปยังเมืองรอง

2.ขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มปริมาณการขายข้าว 10% โดยเสนอการบุกเบิกข้าวสายพันธุ์ใหม่ในตลาดโลก ผลิตข้าวคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ส่งเสริมข้าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และทำระบบ AI ระบบ Blockschain ตรวจย้อนกลับสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และขยายตลาดเจาะกลุ่มผู้บริโภคใหม่ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในตลาดข้าวโลกอย่างยั่งยืน

3.เพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน 3% โดยเน้นขยายตลาดจีน สปป.ลาวเมียนมา มาเลเซีย (CLMM+) โดยมีกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพ อาทิ ผลไม้ ผลไม้แปรรูป OTOP ท่องเที่ยว และสินค้าเกี่ยวกับอาหาร ThaiSELECT

4.ผลักดันนโยบาย Soft Power ขยายการส่งออกสินค้าอาหารและสินค้าไลฟ์สไตล์ เพิ่มขึ้น 2% ภายในปี 2570 และ SMEs ในกลุ่มสินค้าอาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 5% ภายในปี 2572 โดยมีโครงการนำร่องประชาสัมพันธ์สินค้าเด่นของไทย

5.ผลักดันผลิตภัณฑ์แบรนด์ Thai SELECT สร้างแบรนด์ Thai SELECT ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารไทยสู่ตลาดโลก ให้เป็นสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากล แต่ยังคงอัตลักษณ์ของอาหารไทย เพิ่มขึ้นจำนวน 100 รายการ

“ต้องขอขอบคุณทุกส่วนที่ช่วยกันคิด บูรณาการทำงานร่วมกัน ช่วยกันพัฒนางานทำงานอย่างสร้างสรรค์ ฝากต่อยอดและลงลึกแผนงานให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม การร่วมกันคิดในวันนี้ สะท้อนให้เห็นพลังของความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำงาน เราต้องเปิดโอกาสให้แสดงออก จะทำให้เรามีคนช่วยคิดและทำงาน มีมุมมองพัฒนางานได้ เห็นสิ่งใหม่ๆ โดยใช้ประสบการณ์ของผู้บริหาร ประสานงานกับคนหนุ่มสาว ทลายกำแพงความคิด และริเริ่มสิ่งใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่อกระทรวง และประเทศชาติ”นายภูมิธรรมกล่าว